10 ธ.ค.2564 – นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า …..กรณีการลดโทษผู้ที่ถูกลงโทษจำคุกแต่ได้รับโทษน้อยกว่าโทษตามคำพิพากษามากมายที่สังคมกล่าวถึงโวยวายกันอยู่ในปัจจุบันนั้น
…..เกิดจากปัญหา ๒ ประการคือ
…..๑.การกำหนดชั้นของนักโทษว่าเป็นนักโทษชั้นไหน คือ ชั้นเยี่ยม ชั้นดีมาก ชั้นดี และชั้นกลาง นั้น มีหลักเกณฑ์อย่างไร และใครเป็นผู้กำหนดเพราะในแต่ละชั้นของนักโทษจะได้รับการลดโทษต่างกันมาก กรณีนี้โอกาสที่ผู้มีหน้าที่อาจมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องได้ ดังที่เคยมีข่าวมีผู้ร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่เรือนจำเรียกร้องเงินเพื่อเลื่อนชั้นนักโทษ แต่ข่าวดังกล่าวก็เงียบหายไป
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
…..๒.การลดโทษในแต่ละครั้ง เป็นการลดโทษจากโทษตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่ลดโทษจากโทษที่ผู้ถูกจำคุกยังต้องถูกจำคุกอยู่ในขณะมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ
…..นาย ก. ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ๔๐ ปี ได้รับการลงโทษมาแล้ว ๓ ปี เหลือต้องรับโทษอีก ๓๗ ปี มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ขณะนั้นนาย ก. เป็นนักโทษชั้นดีมากได้รับการลดโทษ ๑ใน ๓โทษที่ได้ลดคิดจาก ๔๐ ปี ไม่ใช่คิดจาก ๓๗ ปี จึงได้ลด ๑๓ ปี ๔ เดือน(ถ้าลดจากโทษที่เหลือ ๓๗ ปี ได้ลดเพียง ๑๒ ปี ๔ เดือน) เมื่อนำโทษที่ได้ลดไปลบโทษที่เหลือ ๓๗ ปี ก็จะเหลือโทษที่ต้องจำคุกอีก ๒๓ ปี ๘ เดือน
…..นาย ก. ถูกจำคุกต่อมาอีก ๑ ปี ๘ เดือน เหลือโทษที่ต้องจำคุก ๒๒ ปี ก็มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษอีก ขณะนั้นนาย ก.ได้เลื่อนเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม จึงได้ลดโทษ ๑ใน ๒โทษที่ได้ลดคิดจากโทษตามคำพิพากษาของศาลคือ ๔๐ ปี โทษ ๑ ใน ๒ ของ ๔๐ ปี ก็คือ ๒๐ ปี (ถ้าลดจากโทษที่เหลือ ๒๒ ปี ได้ลดเพียง ๑๑ ปี) เมื่อนำไปลบโทษที่เหลือ ๒๒ ปี ก็จะเหลือโทษที่ต้องจำคุกอีก ๒ ปี
…..รวมแล้วนาย ก. ซึ่งศาลพิพากษาลงโทษ ๔๐ ปี แต่ได้รับโทษจำคุกจริงเพียง ๖ ปี ๘ เดือน ( ๓ ปี + ๑ ปี ๘ เดือน + ๒ ปี ) เท่านั้น
.
…..ถ้าต้องการแก้ไขเรื่องนี้ก็แก้ได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบว่าต้องการแก้ไขหรือไม่
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
…..๑.กำหนดหลักเกณฑ์การเลื่อนชั้นนักโทษให้ชัดเจน โดยป้องกันการวิ่งเต้นหรือหาผลประโยชน์จากผู้มีอำนาจหน้าที่ให้ได้อย่างเด็ดขาด
…..เรื่องนี้สำคัญที่สุด ถ้าไม่แก้ไขหรือแก้ไขไม่ได้ผู้ที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ๓๐-๔๐-๕๐ ปี แต่ถูกจำคุกจริงไม่ถึง ๑๐ ปี จะมีให้เห็นกันตลอดไป
…..๒.การลดโทษตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษต้องคิดลดโทษจากโทษที่ผู้ต้องโทษยังต้องได้รับโทษอีกต่อไป ในขณะที่มีประกาศพระราชกฤษฎีกาฯไม่ใช่ลดจากโทษตามคำพิพากษาของศาล เช่น ศาลพิพากษาลงโทษ ๒๐ ปี ได้รับโทษมาแล้ว ๔ ปี จึงเหลือโทษ ๑๖ ปี ถ้าได้ลดโทษต้องคิดจาก ๑๖ ปี ไม่ใช่คิดจาก ๒๐ ปี อย่างปัจจุบัน
…..๓.ผู้ที่ถูกลงโทษฐานทุจริตคอร์รัปชันและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษไม่ควรได้รับการลดโทษให้ หรือหากจะลดให้ก็ต้องได้รับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของโทษตามคำพิพากษาของศาลจึงจะมีสิทธิได้รับการลดโทษ