นายอภิวาท เวียงตา กับภรรยา ราษฎร์ชาวเขาด่านแม่ละเมา จังหวัดตาก
ร้อง ดร.สุกิจ ว่า รตอ.(หญิง) สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิพนักงานสอบสวน สภ.พระวอ ตั้งข้อหาตนเองร้ายแรง
ขอให้หน่วยงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้พิจารณาโทษ รตอ.สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ กับผู้กำกับพะวอหัวหน้าพนักงานสอบสวน ต่อ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบ เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีเจตนาพิเศษ
คดีนี้สืบเมื่อมาจากตนเองได้ถูก รตอ(หญิง) .สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่น
ดร.สุกิจฯได้สอบถามข้อเท็จจริง ได้ความว่า เมื่อวันที่ 14มิถุนายน 2565 เวลา 14.54 นายชยพล จังเจริญชัย หรือผู้ใหญ่ย่างและนายวศิน จังเจริญชัย กับพวก 3คน ได้กล่าวหาว่า พื้นที่ๆนายอภิวาทกับภรรยา ครอบครองว่าเป็นของผู้ใหญ่ยาง โดยได้ทำลายรั้วลวดหนาม ชึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ พ่อตาตนเองครอบครอบก่อนเป็นป่า
แต่ นายชยพล หรือผู้ใหญ่ย่าง (ผู้ตาย)พยายามแสดงอิทธิพล ที่จะยึดถือที่ดินที่พ่อตาของข้าฯครอบครองและให้ข้าชึ่งเป็นบุตรเขยกับลูกสาวทำกิน นายชยพล หรือผู้ใหญ่ย่าง มีอิทธพลการเงินและสมัครพรรคพวก
จึงแจ้ง เข้าหน้าที่ป่าไม้ตากที่ 8 และรตอ.สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ พนักงานสอบสวน สภ.พอวอ เพื่อมาให้จับกุม นายอภิวาท และภรรยา เหตุเกิดที่หมู่ 5 บ้านส้มป่อย ตำบลด่านแม่ละเมา จังหวัดตาก และใช้อำนาจรัฐยึดที่คืน แต่ตนเองไม่ยินยอม จึงแจ้งพนักงานสอบสวนมาจับกุมตนเอง
เมื่อ รตอ(หญิง).สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ พนักงานสอบสวนมาที่เกิดเหตุนั้น นายอภิวาทได้มุงหลักคาลานจอดรถอยู่
นายชยพล หรือผู้ใหญ่ย่าง พร้อมด้วยบุตรชายคือ นายวศิน จังเจริญชัย กับพวก 3คน พร้อมด้วยอาวุธมีด และปืน ได้ตะโกนเรียกนายอภิวาทต่อ หน้าพนักงานสอบสวน โดยถ้อยคำหยาบคาย ไอ้
วาสมึงลงมาเดียวกับกู และพูดภาษามูเชอร์ว่า แปลได้ว่า จะทำร้ายข้าฯ
โดยเข้ามาในเขตบ้านเพื่อถ่ายรูป ต่อหน้า รตอ(หญิง).สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ ตนจึงโต้แย้งไปว่า เค้ามีสิทธิอะไรมาถ่ายรูปในบ้านตาเอง ที่ข้าฯครอบครองอยู่
หลังจากนั้นมีการโต้เถียงกัน ผู้ตายจึงล้วงเข้าไปที่เอวคล้ายกับจะชักอาวุธปืน และบุตรชายกับพวก ปี่เข้ามาต่อหน้าร้อยเวรที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุถืออาวุธมีดและปืน และตะโกนเป็นภาษา มูเชอร์ว่า วันนี้มึงต้องตาย
โดยมีชาวเขาที่มาส่งของตะโกนบอกให้หลบไป ข้าจึงยิงปืนขึ้นฟ้า 6นัดแต่ไม่สามารถหยุดการกระทำนายชยพล หรือผู้ใหญ่ย่าง กับพวกได้
ตนจึงได้ยิงไปยัง นายชยพล หรือผู้ใหญ่ย่าง จำนวน 1 นัด
เพื่อเป็นการป้องตัว เป็นเหตุให้นายชยพลหรือผู้ใหญ่ย่างถึงแก่ความตาย
หลังจากนั้น นายอภิวาทได้รอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนโดยไม่ได้หลบหนีไปไหน
รตอ(หญิง) สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาแก่ตนว่า ฆ่าผู้ใหญ่ย่างโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่า นายวศิน จังเจริญชัย นำตนไปฝากขังต่อศาลตนจึงได้ประกันตัวต่อศาลมาโดยตลอด จนครบขัง ไม่ได้หลบหนีไปไหน
พนักงานสอบได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด แต่ไม่สามารถฟ้องตนได้ภายในกำหนด ศาลจึงได้ปล่อยตัวตนเองและคืนหลักประกัน
พนักงานอัยการจังหวัดแม่สอด มีคำสั่งไม่ฟ้องในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นถีงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และสั่งไม่ฟ้องพยายามฆ่า นายวศิน จังเจริญชัย ส่งกองคดีผู้บัญชาการตำรวจภูธรณ์ภาค6 เห็นชอบ คงฟ้องตนในข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา
พนักงานงานอัยการจึงนัดหมายให้ตนเองไปฟ้องต่อศาลภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ุ 2566เวลา 10.00น. ปรากฏตามหมายนัดอัยการ
แต่ รตอ.สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ ไม่พอใจอัยการ ที่ยังไม่ฟ้องตน จึงมีหมายเรียกให้ตนไปพบพนักงานสอบสวน 2 ครั้ง ปรากฏตามหมายเรียกผู้ต้องหา หากไม่พบตามกำหนดนัดพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับและคัดค้านการประกันตน
ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้อง ดร.สุกิจฯ ช่วยประสานไปที่คณะทำงานของนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา รตอ.สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ กับผู้กำกับพะวอ หัวหน้าพนักงานสอบสวน ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ โดยมีเจตนาพิเศษ
รตอ. รตอ.สุวภัทร์ อึ้งชัยภูมิ พนักงานสอบสวน สภ.พะวอ แจ้งข้อหากับตนเกินกว่าความเป็นจริง ผกก.สภ. พะวอ ชึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงต้องร่วมรับผิดในการปฎิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน รวมถึงการออกหมายเรียกไม่เป็นไปตามกฏหมาย ตามที่อัยการนัดหมาย จึงร้องต่อท่านนายรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาโทษ
โดยได้มอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดแม่สอดขอไต่สวน คดีที่ พนักงานสอบสวนสภ.พะวอ ออกหมายเรียกโดยไม่มีเหตุสมควร อันเป็นการปฏบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ดร.สุกิจ ได้ประสานงานคณะทำงานนายกรัฐมนตรีแล้ว