ทั้งชีวิตพังเพราะหมอ บอกติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ 4 ขวบ ต้องทนใช้ชีวิตสุดช้ำและกินยาต้านเชื้อมานานเกือบ 20 ปี จนไปตรวจใหม่อีกครั้งถึงพบว่า ไม่มีเชื้อใด ๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.60 เฟซบุ๊กของ สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ หรือ ทนายสงกานต์ ทนายความชื่อดัง และประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้โพสต์เผยแพร่เคสคดีของลูกความสาวรายหนึ่ง ซึ่งต้องเผชิญเหตุเคราะห์ร้ายชวนช็อก โดยระบุว่า เธอถูกแพทย์วินิจฉัยผิดพลาดอย่างร้ายแรง ระบุว่าติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ส่งผลให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั้น ต้องใช้ชีวิตสุดช้ำท่ามกลางความรังเกียจของสังคมมานานถึง 19 ปี
จนกระทั่งเธอเติบโตมาจนอายุได้ 23 ปี จึงได้ตัดสินใจไปตรวจเลือดที่หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ยอมรับสากล ผลปรากฏว่า เธอไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวีใด ๆ ทั้งสิ้น สร้างความเสียใจและชอกช้ำเป็นอย่างมาก ช่วงชีวิตที่เธอควรจะมีและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับคนทั่ว ๆ ไป หายไปเกือบทั้งชีวิต นับตั้งแต่วันที่ถูกแพทย์วินิจฉัยมา ต้องการแพทย์คนที่ทำการรักษาจะต้องรับผิดชอบใด ๆ แก่เธอบ้าง จากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงรวมทั้งเจ้าหน้าที่และโรงพยาบาลดังกล่าว เธอไม่อยากให้เรื่องของเธอเป็นแค่คำขอโทษสั้น ๆ เท่านั้น
กระทั่งล่าสุด วันที่ 28 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 2 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ทางนายสงกานต์จะนำผู้เสียหาย คือ น.ส.นีน่า ไปพบปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ให้กับน .ส.นีน่า นอกจากนี้ จะดำเนินการฟ้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทน ส่วนการดำเนินคดีอาญาจะเข้าพบพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุว่าแพทย์คนดังกล่าวเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ เพราะมีสองส่วนด้วยกัน คือในส่วนของเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ และในส่วนของแพทย์ที่วินิจฉัย
ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมกับทางสภากาชาดไทยที่กระทำการตรวจให้น้องนีน่าอีกครั้ง และผลก็ไม่พบว่ามีเชื้อเอชไอวี ซึ่งทำให้น้องนีน่าดีใจมาก เพราะที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตที่ทุกข์ทรมานเนื่องจากมีคนรังเกียจ อีกทั้งยังกินยาต้านไวรัสเอชไอวีมาโดยตลอดทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็น ขณะนี้กำลังดูเรื่องของผลกระทบในการกินยาต่อเนื่องว่าร่างกายจะมีผลกระทบอะไรบ้าง โดยอยากให้เรื่องนี้จะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะที่ผ่านมามีคดีอย่างนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ภาพจาก: เฟซบุ๊ก สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์
สำนักข่าว vihoknews