ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 11 กันยายน ถึงความคืบหน้าคดีหมายเลขดำ อม.27/2560 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อายุ 64 ปี อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม
ผู้คัดค้าน ฐานแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ว่า คณะตุลาการได้ทำการไต่สวนพยานทั้ง 2 ฝ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันที่ 26 กันยายนนี้ เวลา 09.30 น.
แนวหน้า – ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพจน์ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติเมื่อปี 2555 สืบเนื่องจากหลังจากเกิดที่เหตุคนร้ายบุกปล้นบ้าน นายสุพจน์ ในซอยลาดพร้าว 64 เมื่อค่ำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งต่อมากลุ่มผู้กระทำผิดได้ให้การหลังถูกจับกุมว่า พบเงินสดในบ้าน นายสุพจน์ นับร้อยล้าน กระทั่งต่อมา ถูก ป.ป.ช. ไต่สวน และไม่สามารถชี้แจงที่มาทรัพย์สินได้ นายสุพจน์ จึงถูกชี้มูลความผิดว่า มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
นอกจากนี้ ยังถูกอัยการยื่นฟ้องยึดทรัพย์ต่อศาลแพ่ง โดยเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2557 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินของ นายสุพจน์ และที่มีชื่อของภรรยา บุตรสาวและบุตรเขย ของ นายสุพจน์ ถือกรรมสิทธิ์ พร้อมดอกผลที่เกิดขึ้น รวม 19 รายการ ประกอบด้วย เงินสด 17,553,000 บาท ซึ่งเป็นของกลางในคดีอาญาปล้นบ้าน นายสุพจน์, เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ต่างๆ 9 บัญชี, ทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 10 บาท มูลค่า 260,000 บาท ซึ่งเป็นของกลางในคดีอาญาปล้นบ้าน นายสุพจน์, โฉนดที่ดินใน กทม. พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และใน จ.นครนายก รวม 6 แปลง, ห้องชุดคอนโดมิเนียม ใน กทม. มูลค่า 1.5 ล้านบาท และรถยนต์เบนซ์ รุ่น E 230 และรุ่น C 220 มูลค่า 5.2 ล้านบาท รวมกว่า 64 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน
โดย นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของ นายสุพจน์ เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า คดีดังกล่าวศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันที่ 13 กันยายน เวลา 13.00 น.
สำนักข่าววิหคนิวส์