ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตือน “ธนาธรและปิยบุตร” หากเดินไม่ดี อาจถูกการเมืองเล่นงานจนไม่ทันตั้งตัว พรรคร่วมอุดมการณ์หายหน้า ถูกโดดเดี่ยวกลางทะเล
ชูวิทย์ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า
อนาคต ของ “อนาคตใหม่ ” – อดีต ของ “ไทยรักไทย”
สมัยทักษิณตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ ไม่มีใครคาดคิดว่า จะได้ที่นั่งถึง 248 ที่นั่ง
เลือกตั้งครั้งแรก ปี 2544 ได้คะแนนเสียงถล่มทลาย ครองอำนาจเป็นรัฐบาลครบสมัย 4 ปีเต็ม
เลือกตั้งครั้งต่อมา ความแรงยังไม่หดหาย ได้ ส.ส. ถึง 377 ที่นั่ง เกินครึ่งสภามากว่าร้อย อำนาจเหลือล้น ถนนทุกสายมุ่งสู่ “ทักษิณ”
แต่ในขณะเดียวกัน ดุลอำนาจดั้งเดิมถูกท้าทาย จุดจบคงไม่ต้องบอกว่าทักษิณอยู่ไหน และพรรคไทยรักไทยต้องผ่านประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลานกี่ครั้ง ตกทอดมาจนถึงพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้
เวลาผ่านไป 15 ปี พรรคอนาคตใหม่ ถูกจัดตั้งโดยธนาธร แม้ผลลัพธ์การเลือกตั้งจะไม่เท่าพรรคไทยรักไทยในอดีต แต่ถือว่าคะแนนเสียงที่ได้ถล่มพรรคเก่าแก่จนหัวหน้าพรรคอย่างอภิสิทธิ์ต้องไขก๊อกลาออก เพราะตกใจกับคะแนนเสียงของพรรค
แต่การเมืองไทย ตกผลึกผ่านการแบ่งแยก จนคนเริ่มเบื่อการประท้วงที่ท้องถนน พรรคอนาคตใหม่ ถูกผลักให้เป็นฝ่ายค้านแน่นอน และหากเดินไม่ดี มีโอกาสที่ธนาธรและเลขาฯพรรคอย่างปิยบุตร จะถูกกำหนดเกมเร็ว การเมืองเล่นงานจนไม่ทันตั้งตัว พรรคร่วมอุดมการณ์หายหน้า ถูกโดดเดี่ยวกลางทะเล
พรรคเพื่อไทยเริ่มหายไปกับสายลมแรง จนอาจต้องกำหนดทิศทางใหม่กับพรรคพลังประชารัฐ ที่จบด้วย “นายกฯคนนอก” ที่ไม่ใช่ชื่อ “ลุงตู่”
ให้คุณหญิงสุดารัตน์พัก เพื่อไม่ให้เสียคน รักษาตัวเผื่อเหลือเผื่อขาดแล้วดันชัยเกษมขึ้นแทน ส่วนพรรคจากปักษ์ใต้ หากยังเงื้อง้าราคาแพง ระวังจะตกรถไฟเที่ยวสุดท้าย
เรื่องพวกนี้กระพริบตาไม่ได้ ขนาด “บิ๊กโจ๊ก” วันก่อนเห็นเปล่งประกายอยู่หลัดๆ วันนี้หายไปเสียแล้ว
สวรรค์มีตา เทวดาไม่ตกสำรวจ
Cr.สำนักข่าววเนชั่น
สำนักข่าววิหคนิวส์