เมื่อวันที่ 28 พ.ค.60 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวของกลุ่มนักเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางู กว่า 40 คนโดยลอยแพ โดยระบุว่า
นักเรียนกว่า 40 คนต้องน้ำตาตกบุกศาลากลางจังหวัดราชบุรีพึ่งพ่อเมืองราชบุรี หลังสภาเทศบาลตำบลเขางู อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ไม่ผ่านการเห็นชอบให้โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางูเปิดขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ส่งผลให้เด็กนักเรียนที่ต้องเข้าเรียนชั้น ม.1 และขึ้นระดับ ม.2 ถูกลอยแพทันที
(28 พ.ค. 60) กลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 และ ชั้นปีที่ 2 จากโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางู ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี กว่า 40 คน พร้อมด้วยผู้ปกครอง เดินทางมารวมตัวกันพร้อมชู้ป้ายเรียกร้องความเป็นธรรมจากกรณีที่นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 2 จำนวน 42 คนที่เพิ่งเปิดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา และได้เรียนตามปกติแต่ต้องมาหยุดการเรียนการสอน หลังจากที่สภาเทศบาลตำบลเขางู ไม่ผ่านร่างเห็นชอบให้ทางโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางูขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จนทำให้โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอนทันที ส่งผลนักเรียนทั้งหมดต้องหยุดเรียนตามไปด้วย จากปัญหาดังกล่าวทางโรงเรียนและผู้ปกครองต่างเข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ โดยให้ทางสภาเทศบาลตำบลเขางูได้เรียกสมาชิกสภาเทศบาลเข้าประชุมเป็นการพิเศษในเรื่องการปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปิดชั้นเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางู เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนางทองหยอด รื่นยาน ทำหน้าที่เป็นประธานสภาเทศบาลตำบลเขางู และจากผลสรุปการประชุมดังกล่าว สภายังคงยึดเหตุผลของข้อกฎหมายและไม่เห็นชอบที่จะให้มีการเปิดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2560 และเห็นชอบให้มีการเปิดขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในปี 2561 ส่วนเด็กนักเรียนที่มีอยู่ให้ทางโรงเรียนดำเนินการติดต่อไปยังโรงเรียนต่างๆที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรีเพื่อให้นักเรียนทั้งหมดไปเข้าศึกษาแทน
จากผลสรุปทำให้ผู้ปกครองรวมไปถึงนักเรียนต่างไม่พอใจและได้มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้สภาเทศบาลตำบลเขางูผ่านร่างเห็นชอบให้โรงเรียนอนุบางเทศบาลตำบลเขางูขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อที่จะไปเข้าเรียนตามปกติ ในขณะที่ในวันนี้สภาเทศบาลตำบลเขางูก็มีได้มีการเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อขอมติการเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบที่จะให้โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางู ขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีนายรณภพ เวียงสิมมา นายอำเภอเมืองราชบุรี มาติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นางทองหยอด รื่นยาน ทำหน้าที่เป็นประธานสภาเทศบาลตำบลเขางู ได้ให้เหตุผลว่า จากการที่สภาไม่สามารถผ่านความเห็นชอบให้ทางโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางูเปิดขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้นั้น เนื่องจากสมาชิกสภาเทศบาลทุกคนตระหนักถึงขั้นตอน ระเบียบและข้อกฎหมาย จากการที่จะยกมือผ่านร่างมติเพื่อเห็นชอบนั้นต้องทำให้ถูกขั้นตอนและตรงไปตรงมา แต่เนื่องจากการที่ทางโรงเรียนได้เปิดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นนั้น ยังไม่ถูกขั้นตอนตามกฎหมาย ยังถือว่าทำผิดโดยไม่มีการขอความเห็นชอบจากสภาเทศบาลก่อนที่จะเปิดการเรียนการสอนได้ จึงทำให้ในวันนี้การประชุมเป็นไปอย่างตรึงเครียด มีตัวแทนผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และสมาชิกสภาเทศบาลเข้าร่วมประชุมกันจำนวนมาก โดยต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกัน เพื่อหาข้อยุติซึ่งทางฝ่ายผู้ปกครองและสมาชิกส่วนหนึ่งขอให้มีการทบทวนและขอให้สภายกมือผ่านร่าง แต่ ทางประธานสภาได้ถามหาผู้อภิปรายในข้อ 4 เรื่องของการเห็นชอบให้ขยายการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แต่ปรากฏว่าไม่มีสมาชิกท่านใดอภิปรายและเห็นชอบด้วย ทำให้การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นต้องตกไป และสภาก็มีมติเห็นชอบตรงกันขอให้ทางโรงเรียนกลับไปปฏิบัติทำตามขั้นตอนให้ถูกต้อง และกลับมาขอความเห็นชอบจากสภาอีกครั้ง และหากทำถูกต้องครบทุกขั้นตอนแล้วทางสภารับปากว่าจะยกมือเห็นชอบให้ทางโรงเรียนสามารถเปิดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นได้
จากนั้นประธานสภาได้สั่งปิดประชุมและเดินทางกลับออกทางด้านหลังของเทศบาลตำบลเขางูกลับไปขึ้นรถยันต์และกลับออกไปทันที ทำให้กลุ่มนักเรียนที่รวมกลุ่มกันทางด้านหน้าเทศบาลตำบลเขางูต่างห้องไห้โฮ บางคนถึงกลับเป็นลม บางคนต้องกอดกันเพื่อเป็นการปลอบใจ ที่ตนเองและเพื่อนต้องออกจากโรงเรียนและแยกย้ายไปอยู่ตามโรงเรียนต่างๆในเขตเทศบาลแทน ส่วนบรรดาผู้ปกครองต่างไม่พึงพอใจการทำหน้าที่ของสภาเทศบาลตำบลเขางู ต่างก็ตะโกนเรียกร้องขอให้สมาชิกหรือสภาออกมาชี้แจงแต่ก็ไม่มีสมาชิกท่านใดออกมามีแต่เพียงเจ้าหน้าที่ของเทศบาลออกมาพูดคุยและขอให้แยกย้ายกันกลับบ้านก่อน แต่กลุ่มผู้ปกครองเกิดความไม่พอใจมากขึ้นทำให้ต่างพากันไปรวมกลุ่มที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดราชบุรีเพื่อเรียกร้องให้ท่านผุ้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ช่วยเหลือนักเรียนและเพื่อหาทางออกในการยุตติปัญหาดังกล่าว
ด.ช.อภิรักษ์ บำเรอจิต อายุ 14 ปี หนึ่งในนักเรียนที่กำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กล่าวว่า วันนี้ตนและเพื่อนกำลังได้รับความลำบากจากการไม่มีที่เรียน และตนเองก็ยังไม่ได้ไปสมัครเรียนที่ไหนเพราะรักโรงเรียนนี้ อีกทั้งยังอยู่ใกล้บ้านไปมาสะดวก แต่จากการที่ทางสภาเทศบาลไม่เห็นชอบพวกตนก็รู้สึกเสียใจ อีกทั้งยังต้องเยเวลาในการที่จะได้ศึกษาเล่าเรียน จากการที่ผู้ใหญ่ต่างๆ ไม่ยอมให้ทางโรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอน ซึ่งในปีที่ผ่านมา ตนและเพื่อนๆ ก็ได้ไปสร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียนมาได้รางวัลเหรียญทอง เรียนเงิน และรางวัลชมเชิญมาก็หลายรางวัล ซึ่งอยากให้ทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อเมตตาละเห็นใจนักเรียนที่ใฝ่ดีใฝ่รู้เรื่องการเรียน
ด้านนางสาวจันทร์เพ็ญ น้ำนาน อายุ 34 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 14 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และเป็น 1 ในผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า วันนี้ที่พาลูกมาร่วมร้องขอความเป็นธรรมด้วยเนื่องจากตนเองและครอบครัวได้รับความเดือดร้อน จากการที่ต้องนำลูกไปเรียนในตัวเมืองซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านและต้องเสียค่ารถประจำทางเพิ่มมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาลูกของตนก็เข้าศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา ก็ได้ผลการเรียนที่ดีและสามารถไปสร้างชื่อเสียงมาให้กับโรงเรียนอีกด้วย อีกทั้งตนเองคิดว่าโรงเรียนมีความเป็นมาตรฐานพอที่จะเทียบเท่ากับโรงเรียนอื่นๆ อีกทั้งยังใกล้บ้านด้วย
ขณะที่นายอภิวาท กลกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางูกล่าวว่า โรงเรียนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาได้พยายามติดต่อหาที่เรียนโดยประสานทางเทศบาลเมืองราชบุรีให้รับเด็กที่ประสงค์จะไปเรียนตามความประสงค์ของผู้ปกครอง ในส่วนของการแก้ไขปัญหาเรื่องการขยายการเรียนเราคงต้องดำเนินการกันต่อไป เพราะโครงการในการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลเขางูเป้าหมายข้อหนึ่งคือต้องให้เด็กได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาภาคบังคับคือการจบชั้น ม.3 จึงเป็นเป้าหมายที่โรงเรียนจะต้องดำเนินการขอการขยายการเรียนต่อไป
นายรณภพ เวียงสิมมา นายอำเภอเมืองราชบุรี กล่าวว่าในส่วนของจังหวัดราชบุรีได้มอบหมายให้ทางท้องถิ่นจังหวัดรวมถึงตนเองลงมาปรึกษาหาลือกับทั้งฝ่ายบริหารและสภาในการที่ได้มีการเปิดขยายชั้นเรียนระดับมัธยมปีที่ 1 ขึ้นมาโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบและยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภาเทศบาล ซึ่งตรงนี้ก็พยายามแก้ไขปัญหาโดยมองที่ตัวเด็กนักเรียนเป็นหลักสำคัญ โดยทางฝ่ายบริหารก็พยายามแก้ปัญหามีการหาไปยังกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นถึงแนวทางออกในข้อกฎหมาย ส่วนในตัวของเด็กนักเรียนที่เรียนไปแล้วทางฝ่ายบริหาร ได้หาโรงเรียนไปเรียนต่อในชั้น ม.2 ก็ได้มีการดำเนินกานไปอย่างครบถ้วน ขาดบางคนที่ยังไม่ประสงค์ที่จะไปศึกษาต่อ และยังติดต่อไม่ได้ก็พยายามให้ทาง ผอ. ติดต่อให้ได้ว่าติดที่เหตุผลอะไรซึ่งเรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีก็เป็นห่วงหากไม่มีสถานศึกษาที่จะไปศึกษาต่อ ทางเราก็จะช่วยเร่งดำเนินการให้
อย่างไรก็ดีปัญหาดังกล่าวกำลังเกิดการบานปรายเนื่องจากการติดต่อสอบถามไปยังโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองราชบุรีที่ได้รับเด็กไปศึกษาต่อพบว่าอุปกรณ์การเรียนไม่เพียงพอ ส่วนผู้ปกครองต้องมีภาระเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากจะต้องเปลี่ยนชุดนักเรียนใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงรองเท้า และกระเป๋า ชุดพละ อีกทั้งยังต้องมีรายจ่ายเพื่อเป็นค่าเดินทาง ค่ารถประจำทางในแต่ละเดือนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย