เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ซัดกัญชาเสรี ! สุทิน เพื่อไทย อ้าง “ได้ยินนักการเมืองใหญ่ ทำไร่กัญชาที่ลาว”

#ซัดกัญชาเสรี ! สุทิน เพื่อไทย อ้าง “ได้ยินนักการเมืองใหญ่ ทำไร่กัญชาที่ลาว”

19 July 2022
263   0

   19 ก.ค.2565 – เมื่อเวลา 11.25 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องด่วน “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงความล้มเหลวของนโยบายกัญชา

โดยนายสุทิน ได้เปิดคลิปวิดิโอปฐมเหตุอ้างว่าเป็นความผิดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศบนเวทีจะปลดล็อกกัญชา ให้กัญชาสร้างเสียงหัวเราะ กัญชาเป็นยาพารวย กัญชาเป็นยารักษาโรค ให้ประชาชนปลูกได้บ้านละ 6 ต้น เมื่อปลูกแล้วก็สามารถนำไปขาย นำไปผสมอาหารได้ นำไปเป็นเครื่องปรุงอาหารได้ นำไปรักษาโรคได้ นำไปป้องกันโรคได้ แล้วนำมาพี้สูบกันเองก็ยังได้ แต่อย่าเดินออกนอกบ้าน อย่าพกพาไปที่อื่นเป็นอันขาด

นายสุทิน ได้อภิปรายว่า ตนขอใช้สิทธิ์กล่าวหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เนื่องจากร่วมกันกำหนดนโยบายให้มีกัญชาเสรี นำมาซึ่งเกิดการละเมิดกติกาโลก และกฎหมายประเทศ รวมถึงรัฐธรรมนูญ และมติรัฐสภาไทย

อีกทั้งยังละเลยละเว้นไม่ออกมาตรการควบคุมกัญชาในสิ่งที่ควรจะมี และควรจะเป็น นำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านเกือบเดือน มีผู้ปกครองเด็กเป็นห่วงลูกหลานบอกว่าส.ส.สุทิน พูดหน่อยว่ามันไม่คุ้มนะ ให้ปลูกคนละเท่านั้นเท่านี้ต้น ลูกหลานพวกเราไม่ตายหมดเหรอ รวมถึงครูบาอาจารย์ ถามว่าปล่อยได้อย่างไร เพราะเด็กวันนี้พี้กัญชากลางห้องเรียนแล้ว ทั้งนี้ยังมีหมอ แพทย์แผนไทย นักกฎหมายไม่น้อยมาพบตน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเอ็นระดับประธานองค์กรปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศมาพบตนที่ไทย ขอให้ตนพูดหน่อย หากกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดก็จะผิดไปทุกเม็ด นายกเองก็ปฏิเสธไม่ได้ นโยบายนี้เป็นเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล นายกฯจึงจำยอมเป็นนโยบายของรัฐบาลต่อมา

นายสุทิน อภิปรายต่อว่า ที่สำคัญไทยยังมีข้อผูกพันในอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 1961 เป็นอนุสัญญาเดี่ยวที่ไปลงนามด้วยความสมัครใจ มีสถานะเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ และทุกประเทศที่ลงนามต้องกลับไปปรับกฎหมายในประเทศให้สัมพันธ์สอดคล้องกับอนุสัญญานี้ทันที แต่เมื่อรู้ว่ากัญชามีประโยชน์ก็เรียกร้องใช้ทางการแพทย์ ซึ่งครม.เข้าใจผิดว่าปี 2020 เรื่องการย้ายกัญชาจากประเภทที่ 4 ไปอยู่ประเภทที่ 1 คือเป็นประเภทยาเสพติดร้ายแรง แต่อนุโลมให้ใช้ทางการแพทย์และวิจัยเท่านั้น จะมาสูบ เสพ ขายตามถนนไม่ได้ เพราะถือเป็นการสันทนาการ และมีกฎหมายอื่นควบคุมอีกหลายมาตรา

แต่เมื่อไทยมีการปรับในปี 2563 ประชาชนเข้าใจผิดว่ารัฐสภาไทยเห็นดีเห็นงามปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดนั้นไม่ใช่ ที่จริงรัฐสภาไม่ได้ปลด แต่คนปลดคือรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจนมีผลทำให้วันที่ 9 มิ.ย. 65 กัญชาถูกปลดปล่อยไม่เป็นยาเสพติด ท่านละเมิดกติกาโลก เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติด ส่วนมติของสภาฯคือให้กระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาหากจะเพิกถอนใดๆให้เป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้นอย่ามาโยนความผิดให้สภาฯ

นายสุทิน อภิปรายว่า ส่วนร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชงที่เรายกมือทั้งสภาฯนั้น เพราะท่านปลดล็อกแล้ว แต่ไม่มีอะไรควบคุม เราก็เรียกร้องให้มีกฎหมายควบคุม ไม่มีทางเลือกก็ต้องยกมือให้ วันนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในชั้นกมธ. พวกตนก็ตามตลอด วันนี้กระทรวงสาธารณสุขเลยเถิดไปถึงอุตสาหกรรมและสันทนาการ ที่ผ่านมาหลายคนท้วงติงมาตลอดแต่น้ำท่วมปากเขา เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตนขอถามพล.อ.ประยุทธ์ว่าเรื่องอนุสัญญาดังกล่าวจะทำอย่างไร ที่ต้องดันให้เสร็จเพราะกลัวพรรคร่วมถอนตัวหรือไม่

นายสุทิน กล่าวอีกว่า กัญชามีประโยชน์แต่ก็มีโทษ ต้องชั่งน้ำหนักว่าถ้าปล่อยกัญชาเสรีต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น แม้จะมีร่างพ.ร.บ.ฯออกมาก็ยังไม่ได้ควบคุม เพราะยังให้เสพเสรีอยู่ และไม่มีมาตรการแยกสารสกัดที่ชัดเจน การที่บอกว่าเราจะรวยเพราะกัญชา ต้องตั้งหลักดูดีๆ เจตนาดีแต่ตนคิดว่าไม่ใช่ และถามว่าปลูกแล้วจะไปขายที่ไหน วันนี้ทั่วโลกถือเป็นยาเสพติด พกไปโดนจับทันที ถ้ามาทำเป็นยาโอเค แต่มาตรา 23 ของอนุสัญญาระบุว่าการที่ปลูกกัญชามาแปรรูปทำอุตสาหกรรมยาต้องมีองค์กรเฉพาะควบคุม เพื่อกำหนดโซนนิ่ง และนำเสนอรายงานเพื่ออนุญาตให้ใครปลูกเท่าไหร่ จึงจะขายเพื่อนำไปแปรรูปเป็นยาได้ จะมาขายตามตลาดไม่ได้ หลายคนตื่นตัวไปทำกัญชาระดับประเทศ ตนก็เห็นใจเพราะมันไม่ง่าย การปลูกกัญชาเพื่อแปรรูปเป็นยาส่งออกนอกประเทศไม่ง่าย

ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวต้องกำหนดยุทธศาสตร์ว่าจะขายอะไร กลุ่มเป้าหมายคือใคร หากจะเอากัญชาเป็นจุดขายก็ได้ขี้ยามาแทน เกิดปัญหาสังคมตามมา กัญชาจะบานทั่วประเทศเด็กเสพได้ แต่ห้ามซื้อ ผู้ปกครองวิตกว่าจะกันเด็กออกจากกัญชาได้เหรอ เพราะห้ามนำมาโรงเรียน แต่ที่บ้านกลับปลูกได้ การแก้ปัญหาเด็กถ้าที่บ้านอ่อนแอก็แก้ไม่ได้ เพราะวันนี้ปล่อยกัญชาเสรีที่บ้าน ไปเสพติดครัวเรือน เราต้องป้องกันให้กัญชาเป็นยาเสพติดออกห่างเยาวชน อย่างไรก็ตามตนเป็นห่วงภาพพจน์และเกียรติภูมิของประเทศ หากหลับตาลงเป็นนครกัญชา ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น นี่คือผลประโยชน์ทางการเมือง

ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อทไย อภิปรายต่อว่ารัฐบาลปลดล็อกแต่ไม่ควบคุม บอกให้ชาวบ้านใช้ปรุงอาหาร แต่ถามว่าชาวบ้านทราบหรือไม่ว่าปริมาณ THC เท่าไหร่ถึงจะไม่เป็นอันตราย นายอนุทินอาจจะชี้แจงว่าเรากำลังจะออกกฎหมายควบคุม ซึ่งตนได้ติดตามไปที่ชั้นคณะกรรมาธิการที่กำลังพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว ก็พบว่าแม้ออกกฎหมายก็ยังให้เสพได้เสรีเหมือนเดิม เข้าใจว่าห้ามเสพในที่สาธารณะ แต่แสดงว่าให้เสพที่บ้าน ที่คอนโดได้ใช่หรือไม่ ทุกวันนี้เด็กก็เสพกัญชามาจากบ้านไปถึงโรงเรียนก็นอน เรียนไม่รู้เรื่อง

“เรื่องนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อน นอกจากประโยชน์ทางการเมือง พรรคการเมืองไปพูดกับประชาชนแล้วก็ต้องทำ ส่วนนายกฯก็ทำเพื่ออยากอยู่ต่อในตำแหน่ง ได้ยินมาว่าบอกว่ามีนักการเมืองใหญ่ทำไร่กัญชาเป็นหมื่นเป็นแสนไร่ที่ลาว แถมยังมีคนกระซิบบอกด้วยว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นแอบมาตกลงกับนักการเมือง”

นายสุทิน อ้างว่ายังพบเป็นข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครือบริษัทซิโน-ไท หันมาทำธุรกิจกัญชงเต็มตัว โดยบริษัทนี้ครอบครัวชาญวีรกูลเป็นผู้ถือหุ้น ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ไม่เกี่ยว เพราะท่านโอนหุ้นทั้งหมดไปให้เกียรตินาคินภัทร แต่ต่อมาปรากฏว่าเกียรตินาคิน ไปถือหุ้นในซิโน-ไท แปลว่าหากทำธุรกิจกัญชง แล้วเกียรตินาคินฯได้ปันผล ถามว่าถ้าเกียรตินาคินได้ ถึงท่านหรือไม่ ถ้าถึงท่านก็แปลว่าเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องทั้งหมดที่ว่ามานี้ นายกฯอยู่ไหน ถ้านายกฯไม่อนุญาตหรือไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ไม่สำเร็จ ฉะนั้นทั้งนายกฯ และนายอนุทินต้องรับผิดชอบด้วยกัน

ส.ส.ฝ่ายค้าน ผู้นี้กล่าวด้วยว่าขอพูดถึงรัฐวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการปลูกกัญชา ซึ่งคาดหวังว่าต้องได้ขาย แต่ถามว่าวันนี้ได้ขายหรือไม่ การจะได้ขายต้องได้ค่า THC เข้มข้น เขาถึงจะรับซื้อ ต้องปลูกในโรงเรือนปิด ดินต้องได้สเปก อากาศต้องได้ โรงเรือนลงทุน 20 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจชุมชนจะเอาเงินมาจากไหน เช่นเดียวกับนโยบายให้ปลูกกัญชาครอบครัวละ10 ต้น ก็ไม่มีทางขายได้ ถ้าขายไม่ได้ก็คือถูกหลอก และไม่เป็นเศรษฐกิจครอบครัวจริง เพราะทำได้แค่ต้มกินในครอบครัวได้เท่านั้น

“ผมและพรรคเพื่อไทยไม่ได้คัดค้านกัญชา แต่มีทางที่จะทำได้แบบไม่กระทบหรือไม่ ขอให้เราไปจากยูเอ็นเพื่อปลูกทำวิจัยการแพทย์ แต่วันนี้สายเสียแล้ว เพราะเจตนาเป็นอย่างอื่นมากกว่า ดังนั้นผมจึงไม่อาจไว้วางใจให้รัฐบาลอยู่ต่อไป ถ้ายังอยู่ต่อ กัญชาจะเตลิดกว่านี้มาก” นายสุทิน กล่าว.