นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล หรือซินแส ภาณุวัฒน์ หมอดูชื่อดัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กหลังได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า..
หลังจากที่ลูกชายคนโตโพส มีหลายๆ ท่านที่ทราบจากช่องทางต่างๆ มีทั้งโทรมา ส่งข้อความมาแสดงความยินดี พร้อมถามไถ่ในเรื่องนี้ ผมก็ขอมาเล่าการรับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 สค.62 และมีรายชื่อสำรองเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ลำดับที่ 31 เมื่อวันที่ 11 มิย.62 ผมเคยสืบทอดกิจการโรงแรมจากเตี่ย มาเข้าสู่เส้นการเมือง ลงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2533 หลังจากนั้นลาออกมาลง ส.ส.ในนามพรรคนำไทยสมัยท่านอำนวย วีรวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค จากการทาบทามในปี 2535
••• พอสอบตก ผมก็หันหลังให้การเมืองนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งตอนนั้นก็รู้ตัวเองดีว่าดวงจะไม่ได้ แต่ผมก็ทำนายไปว่าดวงผู้นำพรรคกำลังจะดี ไม่นานก็ได้เป็นรัฐบาลร่วมในสมัยนั้น •••
ชะตาชีวิตผมพลิกผันมาเป็นหมอดู รับวิชาต่อจากคุณแม่ ที่ตกทอดมาจากคุณทวดอีกที แล้วผมก็เดินทางไปบรรยายทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันก็ดำรงตำแหน่งองค์กรต่างๆ เช่น ผู้ว่าการไลอ้อนส์ภาค 310B ในสมัยปี 2547-2548 เคยมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวผม ที่ทยอยล้มป่วยเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ทราบสาเหตุ จนอาเจ็กเริ่มป่วย พอมาวิเคราะห์เชื่อว่าจะเป็นผมคนต่อไป จึงพยายามค้นหาต้นสายปลายเหตุ ด้วยชะตาฟ้าลิขิตหรือไรไม่ทราบ คุณแม่ของผมก็ได้พบซินแสตังซิวเง็ก จากประเทศมาเลเซียด้วยความบังเอิญเจอกันที่หาดใหญ่เมื่อปี 2525 และคุยกันถูกคอ จึงขอให้ท่านมาช่วยปรับแก้ฮวงซุ้ย (สุสานคนตาย) ปรับฮวงจุ้ย (ที่อยู่อาศัย-ที่ทำงาน) ส่งผลทำให้สถานการณ์คลี่คลาย คนในครอบครัวที่เจ็บป่วยค่อยๆ ดีขึ้น
หลังจากนั้นผมไปขอซินแสตังซิวเง็กเป็นพ่อบุญธรรม (เตี่ยผมเสียชีวิตเมื่อปี 2524) ก็ถือกระเป๋าตามอยู่หลายปี ท่านได้ถ่ายทอดวิชาฮวงจุ้ยให้ จนมาถ่ายทอดให้ลูกทั้ง 3 คนต่อ
จากนั้นมาผมก็นำวิชาฮวงจุ้ย ดูให้ลูกค้าที่สนใจ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมาหลายยุคหลายสมัย ผมเพียงชี้แนะ แนะนำในด้านโหราศาสตร์เท่านั้น จนเป็นที่มาของ “ซินแสปากกล้า” ดีนะที่ไม่เรียกปากหมา เพราะด้วยความตรงไปตรงมา ไม่ได้ดูแบบเพื่อเอาอกเอาใจใคร หรือบิดเบือนคำทำนายเพื่อความสบายใจ ตัวผมเองเคยโดนท่านชวน เมื่อครั้งตอนเป็นนายกฯ พร้อมพี่พิเชษฐ์ตำหนิผมที่ไปทำนายว่ารัฐบาลดวงตก จะทำให้มีปัญหา เกิดความวุ่นวาย ซึ่งในเวลานั้นไม่นานก็เกิดการยุบสภา
ผมเป็นคนที่ใช้วลีนี้คนแรกในการให้สัมภาษณ์ทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ว่า
••• อย่ามั่นใจว่าทุกอย่างจะอยู่ในอำนาจของตนแล้วจะทำอะไรก็ได้ สุดท้ายขอให้ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ •••
ในสมัยที่ทักษิณเป็นนายกฯ ตามที่ผมเคยเตือนไป แต่ก็เป็นไปตามคำทำนาย จนมาถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งคำทำนายต่างๆ ที่ผ่านมา ลองไปหาดูในกูเกิ้ล เฟซบุ๊ค หรือยูทูปดู ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผมดำเนินมาจนอายุ 68 ปี ผมกล้าพูดได้ว่าผมหวังดีกับบ้านเมืองมาตลอด ทำนายทายทักเหตุบ้านการเมืองด้วยความห่วงใย และเตือนสติผู้คนด้วยความสำนึกดีต่อบ้านเมืองทุกปีตามสื่อต่างๆ จนได้รับฉายา
••• ซินแสของแผ่นดิน •••
ผมเป็นคนไม่เคยไปเรียกร้องอะไรจากใคร ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ หรือเอาผลประโยชน์มาสู่ตน เพราะผมมีวิชาหมอดูที่ต้องปฏิบัติให้ถูกครรลองคลองธรรมอย่างเคร่งครัด ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่คงให้ความไว้วางใจ และเล็งเห็นในหลักวิชาของผม จึงเทียบเชิญให้ผมมารับตำแหน่งเพื่อใช้วิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษมาช่วยเหลือบ้านเมือง
*** เหมือนสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ มีซินแสคู่กายเป็นที่ปรึกษา ดูฤกษ์ดูชัย ดูฤกษ์งามยามดี จับยามสามตา ***
ซึ่งเหตุผลในการรับตำแหน่งครั้งนี้ คือผมไม่ได้สนใจการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของการเมือง ผมใส่ใจเพียงแต่การนำวิชาความรู้ที่ผมมี มาใช้เพื่อความผาสุกของบ้านเมืองเป็นหลักเท่านั้น ใครจะคิดอย่างไร ก็คิดกันไปเองต่างๆ นาๆ กันเอง ซึ่งผมก็ไม่สามารถไปบังคับความคิดของใครได้
••• ในความตั้งใจครั้งสุดท้ายของบั้นปลายชีวิตนี้ ผมขอนำวิชาความรู้จากครูบาอาจารย์ มารับใช้ประเทศชาติจนกว่าจะหมดลมหายใจ ขอตายจากบ้านเกิดเมืองนอนนี้ ด้วยความรักที่มีต่อแผ่นดินผู้ให้กำเนิดชีวิตผมครับ •••
สุดท้ายนี้ผมขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่มาแสดงความยินดี ให้กำลังใจ และผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจผมมา ณ ที่นี้อีกครั้งด้วยครับ
Cr.สยามรัฐ
สำนักข่าววิหคนิวส์