ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุรุนแรง ใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณสะพานพื้นที่บ้านตันหยงมุสลิม (บ้านย่อยบ้านยือลาแป) หมู่ที่ 3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 16 พ.ย.64 ที่ผ่านมา โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่รถยนต์ของทางราชการได้รับความเสียหาย
หลังเกิดเหตุ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ได้จัดชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ สกัดกั้นตามเส้นทางต่างๆ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 1 ราย คือ นายอามีร ดอแตอายุ 29 ปี ตรวจสอบกระสอบใยสังเคราะห์สีฟ้าที่นายอามีรฯ นำมาด้วย พบอาวุธปืนสงคราม จำนวน 4 กระบอก ได้แก่ ปลย. AK 47 จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบประวัติทราบว่า ปล้นมาจากพื้นที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2548 ใช้ก่อเหตุมาแล้ว 23 คดี , ปลย. AK 102 จำนวน 1 กระบอก อยู่ระหว่างการตรวจสอบแหล่งที่มาแต่จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าใช้ก่อเหตุรุนแรงมาแล้ว 3 คดี , ปลย. M 16 A 4 จำนวน 1กระบอก ปล้นมาจากเหตุระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 โดยในเหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย ผู้ก่อเหตุรุนแรงนำอาวุธปืนไปได้ 2 กระบอก และ ปลย. M 16 A1ตัดสั้น จำนวน 1 กระบอก ปล้นมาจาก หน่วยทักษิณพัฒนาที่ 12 อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 46 นอกจากนี้ยังพบซองกระสุนของปืนชนิดต่างๆ รวมกัน 11ซอง กระสุนปืน 300 นัด
จากนั้นได้นำตัว นายอามีร ฯ ไปขยายผลเพิ่มเติมที่ศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีอาวุธปืนที่เหลือซุกซ่อนอยู่ โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ย.64เวลา 2300 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอามีร ฯ ไปยังจุดที่ถูกระบุว่าซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ บริเวณบ้านมือและห์ ม.1ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อไปถึงจึงขุดพื้นดินตรงที่นายอามีรฯ ชี้ พบอาวุธปืนเล็กกลยี่ห้อเนเกฟ จำนวน 1กระบอกฝัง อยู่ในท่อ PVC จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นปืนที่ปล้นมาจาก ฐานพระองค์ดำ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .357 และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งปืนพกสั้นเป็นปืนที่ได้มาจากการก่อเหตุยิง นาย สะมะแอ ดอเลาะ ผญบ.นาดา เสียชีวิต ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 17 พ.ค.50 โดยอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกถูกซุกซ่อนอยู่ในสวนยางพาราบริเวณเดียวกัน
ต่อมาวันที่ 22 พ.ย.64 เวลา 1530 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอามีร ฯ ไปชี้จุดซ่อนอาวุธ และอุปกรณ์ประกอบระเบิดแสวงเครื่องเพิ่มเติม ในพื้นที่บ้านกาโดะ ม.4 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พบอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1กระบอกและปุ๋ยยูเรีย จำนวน 1 ถัง น้ำหนักประมาณ 5กิโลกรัม หลังจากนั้น พันเอก ทรงเดช สุกนุ้ย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผู้นำศาสนา ได้นำตัว นายอามีร ฯ ไปพบกับครอบครัว เพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจ ในขั้นตอนของการดำเนินการ ตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้นายอามีรฯ ได้กล่าวขอโทษ มารดา และภรรยา ที่ได้หลงผิดและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่กระทำลงไป สำหรับครอบครัวของ นายอามีรฯ มีฐานะยากจน มีอาชีพและรายได้ที่ไม่แน่นอน มีบุตร จำนวน 3 คน คนเล็กสุดอายุ 7 เดือน ขณะที่มารดา มีโรคประจำตัวหลายโรค โดยเฉพาะโรคความดันและเบาหวาน โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ได้มอบถุงยังชีพและงบประมาณจำนวนหนึ่ง เป็นการช่วยเหลือ เพื่อให้ครอบครัวของนายอามีรฯ สามารถดำรงชีพได้ในขั้นต้น
สำหรับขั้นตอนในการควบคุมตัวเพื่อขยายผลซักถามนายอามีร ฯ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ มทภ.4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กำชับให้หน่วยดำเนินการในทุกขั้นตอนให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เน้นย้ำการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ในศูนย์ซักถามต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบถ้วนพร้อมเพรียง มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่มีการซ้อมทรมานผู้ถูกควบคุมตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้จากการสอบถามขยายผลจนทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธดังกล่าว เกิดจากการสร้างความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้รับการซักถาม จนนำไปสู่ความร่วมมือและนำไปค้นหาอาวุธที่เหลือจนพบในที่สุด
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. จึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กรุณาอย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง การเก็บซ่อนอาวุธ หรือ การจัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับนายอามีรฯ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการซักถามแล้ว จะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป