“นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เตรียมเดินหน้าสู้ทุกมุม เพื่อให้ ป.ป.ช. มีการรื้อคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 กลับมาพิจารณาใหม่ แต่ยืนยันไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมแฉปลายเดือนกันยานยนนี้ ป.ป.ช.อาจชี้มูลความผิด “ครม.ยิ่งลักษณ์” กรณีอนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง โดยมิชอบนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. เปิดเผยว่า หลังจากศาลฎีกาพิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น และศาลอุทรณ์ ให้ยกฟ้องคดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี คดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. เมื่อปี 53 นั้น
ข่าวช่อง 8 – คำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าว ไม่ได้ทำให้ช่องทางเอาตัวคนผิดมาดำเนินคดีจบสิ้นลง โดยหลายฝ่ายยังมีการนัดหมายหารือกัน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านต่างๆ และหาข้อสรุปเรื่องแนวทางดำเนินการต่อไป โดยสัปดาห์หน้าจะแถลงรายละเอียดให้สังคมรับทราบ ยืนยันว่า จะสู้ทุกมุม และเก็บทุกเม็ด แต่การเคลื่อนๆไหวทุกอย่างจะต้องเป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นใดทางการเมือง
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ระหว่างที่กำลังรอคำตอบจากป.ป.ช. ว่า จะมีการรื้อคดีการสั่งสลายการชุมนุมนปช.มาพิจารณาใหม่หรือไม่นั้น ตนได้รับข้อมูลจากผู้หวังดีว่า ปลายเดือนกันยานยนนี้ ป.ป.ช. จะมีการชี้มูลคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีอนุมัติเงินเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งหาก ครม. นางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกชี้มูลความผิดจริง เท่ากับว่า เหตุการณ์ปี 2553 จะมีแต่แกนนำและมวลชนคนเสื้อแดง และรัฐบาลเท่านั้น ที่ถูกดำเนินคดี
ด้านนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดานางสาว กมนเกด พยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. บริเวณวัดปทุมวนาราม ระหว่างเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2553 กล่าวว่า สำหรับแนวทางต่อสู้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเหตุสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 นั้น กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต จะเดินหน้าต่อสู้คดีด้วยตัวเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ ร่วมกับนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งจะขอความรู้และข้อมูลจากนักวิชาการ เพื่อให้มีความรอบคอบมากที่สุดในการขอรื้อฟื้นคดี
ขณะที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และทนายความกลุ่มนปช. กล่าวว่า ในวันที่ 11 กันยายนนี้ ตนจะไปติดตามความคืบหน้าคดี กปปส. ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ที่ตนเคยยื่นหนังสือถามความคืบหน้ากรณีที่ยังไม่มีการฟ้องแกนนำ กปปส. หลายคน ทั้งที่เวลาผ่านมานานแล้ว
และตนจะขอให้เปิดเผยรายชื่อของคณะทำงานอัยการทุกคนเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย เพราะหากพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องยังไม่สั่งฟ้องตามระยะเวลาที่ควรดำเนินการ อาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่ มิชอบ เพราะตนเห็นว่าการดำเนินคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งที่มีพยานหลักฐานชัดเจน
สำนักข่าววิหคนิวส์