ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชานมหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสข้อความระบุว่า
สิ่งที่อาจจะเกิดใน “ปีหน้า ฟ้าใหม่”
เฉพาะเรื่องที่คนส่วนมากอาจจะคาดไม่ถึง ซึ่งอาจจะร้อนร้าย หรือสงบเย็น
สิ่งเหล่านี้ เราควรจะได้ช่วยกันจับตามอง
1. อาจจะมีการอภัยโทษ ลดโทษ ไม่กำหนดโทษ นิรโทษครั้งใหญ่ ในช่วงพิธีบรมราชาภิเษกฯ ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2561
นับเป็นพระบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งผลให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ของคนไทย ความแตกแยกที่มีอยู่เดิม จะลดลง
2. ผู้ที่ถูกกล่าวหานาฬิกาหรู กำลังถูกตรวจสอบเรื่องปกปิดบัญชีทรัพย์สิน จะรอดความผิดตามกฎหมาย
เพราะอ้างซื้อมา-ขายไป / ยืมมา-คืนไป / บางรายการก็ไม่รู้ว่าเป็นของปลอม–ของจริง
และตอนนี้ ก็ยังไม่ถึงเวลาแจงบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งตามกฎหมายให้แจ้งตอนเข้ารับตำแหน่ง-พ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบหนึ่งปี
แต่อาจจะถูกขอให้ปรับออกจาก ครม. (แก้ปัญหาแบบไทยๆ)
ครม.ใหม่จะปรับใหญ่ อาจมีการเปลี่ยนหัวหน้า ครม. และมีพลเรือนมากขึ้น
3. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะยังไม่สิ้นอายุขัยในปี 2561
แต่อาจจะมีอายุอยู่ยาวรวมกันถึง 5 ปี (นับจากสิงหาคม 2557)
เป็นผลจากการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีช้ากว่าโรดแมป
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ก็ไม่ง่าย จะต้องใช้เวลา
จะมีพรรคการเมืองเกิดใหม่หลายพรรค ทั้งพรรคทหาร พรรคคนรุ่นใหม่ พรรคธุรกิจการเมือง ในปี 2561
4. ทหารที่ต้องการสืบทอดอำนาจ จะเปิดตัวชัดมากขึ้น
การเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองเก่า จะเป็นการดึงสมาชิก และผู้จะเล่นการเมืองในภูมิภาคเข้าสู่พรรคทหาร เนื่องจากต้องการจะเป็นรัฐบาล
ฐานคะแนนเสียงภาคใต้และเมืองใหญ่ จะถูกแบ่งจากพรรคประชาธิปัตย์ มายังพรรคทหาร ผ่านกำนัน
บรรยากาศทางการเมือง จะมีความแตกแยกขัดแย้งใหม่ ระหว่างฝ่ายที่นิยมทหารกับฝ่ายที่ต่อต้านการปกครองของทหาร
5. จะมีความพยายามแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพิ่มอำนาจให้สภาสูงหรือวุฒิสภา เพื่อค้ำบัลลังก์รัฐบาลใหม่
รัฐบาลใหม่จะผสมผสานทหารและพลเรือนมากขึ้น
6. ปี 2561 ปัญหาความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างของคนไทยจะหนักมากขึ้น
ทั้งด้านเศรษฐกิจ รายได้ และชีวิตความคิด
จะเกิดความขัดแย้งแบบใหม่ จนมาตรา 44 จะเป็นยาที่ดื้อระงับอาการโรคไม่ได้
7. ไอคิวของเด็กไทยจะมีความแตกต่างกันมากขึ้น
คนที่พร้อมกลับไม่ท้อง แต่คนที่ไม่พร้อมกับท้อง
ค่าเฉลี่ยไอคิวทั้งประเทศอยู่ที่ 98 จะต่ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากลที่ 100
เรียกว่า เกิดความเหลื่อมล้ำจนเข้าเลือด -เข้าเนื้อ – เข้าสมอง
8. ปีใหม่ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ (เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง) จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ความเชื่อถือจะตกต่ำลง เพราะคุณสมบัติของกรรมการองค์กรอิสระเหล่านี้เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย โดยเฉพาะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจทางการเมือง
9. คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจการเมืองโลก ใน “รายการเติมมุมคิด ทาง NEW TV18” คาดว่า ปี 2561 ราคานํ้ามันดิบวิ่งเข้าสู่ $100 ต่อบาเรลล์ จากการที่จะมีสงครามในถิ่นที่ผลิตนํ้ามันมากขึ้น เช่น Kurdish areas, Iraq, ตะวันออกกลางรวมไปถึงซาอุดีอาระเบียอยากจะขายหุ้นในบริษัท Saudi Aramco และขายพันธบัตรของบริษัทนํ้ามันแห่งชาติอันนี้ด้วย เพื่อช่วยสถานการณ์ทางการคลังของประเทศเขา ดังนั้น เขาอยากให้ราคานํ้ามันสูง วินัยของ cartels อย่าง OPEC จึงมีมากขึ้น จากการควบคุมดูแลของเจ้าใหญ่อย่างซาอุฯ
Trump ก็อยากให้ราคาขึ้นเพื่อช่วยฐานเสียงของเขาใน mid West American ที่ทําอุตสาหกรรมนํ้ามัน
10. ปี 2561 นี้ คุณปริญญ์ยังคาดว่า หุ้นไทยจะทะลุ 2000 จุด เพราะกลุ่มพลังงานจะขึ้นดีต่อเนื่อง (เหตุผลจากราคานํ้ามัน)
กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะฟื้นตัวดีเกินคาด จากเศรษฐกิจที่โตดีต่อเนื่อง และแบงค์กล้าปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
กองทุนต่างประเทศจะกลับมาซื้อหุ้นไทยมากขึ้น หลังจากขายสุทธิมานาน จึงน่าจะ switch ออกจากหุ้นเทคโนโลยีและอเมริกา ซึ่งแพงแล้ว
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐใน EEC จะมีการเร่งรัดมากขึ้น
11. ปีใหม่นี้ คงจะได้เห็นการผันผวนของ Bitcoin และ Digital currency อื่นๆ อย่างมาก
คงจะมีคนเจ็บตัวกันไม่น้อย
12. ปี 2561 เทคโนโลยีที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วจะรุกล้ำทำลายธุรกิจที่เกิดเก่าและใหม่จำนวนมาก
จะมีคนต้องออกจากงานจำนวนมากขึ้น เพราะมีการใช้เครื่องจักร-หุ่นยนต์อัตโนมัติมากขึ้น
รัฐบาลจะมีความยากลำบากมากขึ้นในการเก็บภาษี เพราะกิจการหลายอย่างเกิดขึ้นข้ามรัฐ-ข้ามประเทศ
13. ปีใหม่นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก ใกล้เคียงกับจำนวนประชากรวัยแรงงานของไทยที่มีประมาณ 40 ล้านคน
จะทำให้ราคาอาหารและค่าครองชีพในเมืองท่องเที่ยว อยู่ในระดับสูงขึ้น
แต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว จะกระจุก ไม่กระจายอย่างทั่วถึง
14. ปี 2561 จะมีผู้สูงอายุประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บพิการมากขึ้น เพราะประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากกว่า 12 ล้านคน หรือเป็นสัดส่วน 18% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ขณะที่ประเทศไทยยังไม่ได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัย อาคาร และทางสาธารณะ ให้เหมาะสมกับสังคมสูงวัย
15. เริ่มแต่ปีใหม่นี้ คนไทยจะไปพบและยอมเข้าพบจิตแพทย์มากขึ้น
มีความเข้าใจดีขึ้น ว่าคนที่ไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่คนโรคจิตผิดปกติ หรือเป็นบ้า
อาจจะเป็นเพราะพระสงฆ์ในปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่ของผู้ให้คำปรึกษาทางจิตที่เพียงพอเหมือนในอดีต
16. ปีใหม่นี้ ทีมฟุตบอลจากทวีปแอฟริกาอาจจะได้แชมป์บอลโลกที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ
โดยไม่ต้องมีผ้ายันต์จากพระรูปไหน
17. อากาศของประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
หนาว-ร้อน ฝนมาก-ฝนแล้ง ในแต่ละฤดู ในแต่ละวัน จะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
เช่นเดียวกับอารมณ์ของคนไทย ทางการบ้านการเมือง จะแปรเปลี่ยนรวดเร็วมากขึ้น
เริ่มต้นศักราชใหม่ 2561
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเรามิสติ ใช้ปัญญา เราจะช่วยกันนำพาประเทศชาติบ้านเมือง ผ่านพ้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน
ขอเราทั้งผอง อย่าละทิ้งธรรม อย่าปล่อยบ้านเมืองไปตามยถากรรม
สำนักข่าววิหคนิวส์