19 กุมภาพันธ์ 2561 ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา (ออกรายการช่อง3โหนกระแส)ได้โพสข้อความทางเฟสบุ๊คระบุว่า คดีหวย การคลี่คลายคดี จะเกิดจากคลิปเสียง 5 ชุด 4 ชุดๆแรก ละ2นาที ที่ภาค 7 กองปราบ สอบสวนกลางสอบไปแล้ว อีก 1 คลิปคือ การสนทนาเรื่องรับสารภาพและเจรจาขอแบ่งหวยชั้นพนักงานสอบสวน ที่ร้อยเวรบันทึกไว้ และสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้ว
รวมถึงภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ที่คณะกรรมการสอบสวน ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ขอคลิปจาก ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารออมสินมาแล้ว เพราะจุดเก็บตกอยู่ใกล้ธนาคาร
เมื่อคลิปมาครบตามจำนวน ถูกเผยแพร่ จะชัดว่าหวยเป็นของใคร เดิมพันในคดีนี้ นอกจากจะชี้ว่าหวยเป็นของใครแล้ว ยังจะยืนยันถึงกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นของไทย ชั้นตำรวจ อันหมายถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีมาตราฐานขนาดไหน
คนรับสื่อจะแยกออกระหว่างความเชื่อ กับความจริง ความชอบธรรมจึงจะบังเกิด ด้วยตัวของมันเองก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาคนร้าย แล้วจึงเดินหน้าในขั้นต่อไป คือดำเนินการขบวนการ ที่มีลักษณะพฤติกรรม ตามสูตรเหมือนคดีครูจอมทรัพย์ พฤติกรรมเชิงเปรียบเทียบในทั้ง 2 คดี
1.คนร้ายอ้างว่าตัวเองบริสุทธิ์ โดยมีผู้อ้างตัวเป็นนักกฎหมายเร่พาออกสื่อ
2.ตร.สอบสวนทุกเม็ดที่ร้องเรียน อย่างละเอียด ขู่เอาผิดตร.ที่ใส่ร้าย จะออกหมายจับตร. ที่กลั่นแกล้งแพะ
3.มีการสาบานศาลกล่าวว่าถูกกลั่นแกล้ง
4.ตร.เริ่มปล่อยคลิป ที่เป็นพยานหลักฐาน เพียงส่วนหนึ่งในคดี ตัวละคร เช่นสับสาปี
5.จนกระดานร้องไห้ออกสื่อ เพราะพยานหลักฐานมัด
6.ตร.แจ้งข้อกล่าวหา ติดคุกจนถึงทุกวันนี้
คดีหวย ก็เหมือนคดีครูจอมทรัพย์ ในเชิงพฤติกรรมทุกประการ มีการพาเดินหน้าออกสื่อ โดยมีหลักสำคัญเหมือนกันคือ เงิน มูลค่า 10 ล้าน(จอมทรัพย์) กับ 30 ล้าน (หวย)
ทั้ง 2 คดีนี้ คนไทยจะได้บทเรียนเรื่อยๆในการรับฟังสื่อ ในการนำเสนอเพียงข้างเดียว จะเห็นการแสดงละคร คำโกหกซ้ำๆ ที่ออกมาผ่านสื่อ จนเกิดความวุ่นวาย สับสนในสังคม ระหว่างความเชื่อ กับความจริง
ความจริงจะปรากฎมากขึ้นเรื่อยๆ ชัดกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ ชะตากรรมในคดีเหล่านี้ เกิดขึ้นมาหลายครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะไม่มีการดำเนินการขุดรากถอนโคน มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทำให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย คนเหล่านี้จึงจำเป็นต้องขจัดออกจากสังคมไทย ที่ชัดเจนเกี่ยวข้องกับขบวนการต่อต้านชาติ ที่อยู่นอกในประเทศ ที่ใช้สื่อโจมตีกระบวนการยุติธรรม
ให้คนเช่นนี้กลับไปติดคุกเหมือนเดิม เหมือนตอนเป็นวัยรุ่นในคดี “รุมโทรมหญิง” อันจะบ่งชี้พฤติกรรมของคน กับความละโมบโลภมาก อยากดัง เพราะส่วนแบ่ง 3.3 ล้าน และเงิน 10 ล้านเป็นสำคัญ
ในคดีนี้ขบวนการคนร้ายรู้ตัวแล้วว่า กำลังติดกับดักที่จนท.ได้วางไว้ ทำให้ชล่าใจ เข้ามาอยู่ในกับดักจนถอนตัวไม่ขึ้น เดิมพันมิใช่เพียงติดคุก แต่หมายถึงการ ถอดยศ ปลดเครื่องราช ยึดบำเหน็ด บำนาญ ถอนใบอนุญาต หากคดีนี้เดินจนสุดทาง ทรัพย์ก็จะตกอยู่ในมือเจ้าของตัวจริง ตามคำตัดสินของศาล
คดีหวยต่างจากคดีครูจอมทรัพย์ตรงที่ เป็นคดีอาญาแต่ยอมความกันได้ หากผู้กระทำความผิดยอมขอขมา คืนเงิน ยอมรับผิดคดีก็จะสิ้นสุดลงทันที เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน แต่สังคมจะได้รับบทเรียนที่สำคัญของการรับรู้สื่อ แยกความเชื่อกับความจริงออก
แต่จะได้รับมากกว่าคือ ทั้งคดีเสือและหวย ที่ดังสนั่นลั่นเมืองมาหลายเดือน มีเป้าประสงค์อื่นทางการเมือง เมื่อกลบ นาฬิกา และสารพัดม๊อบ เปิดทางการกวาดล้างต่างหาก จึงจำเป็นต้องลากมาถึงสิ้นเดือนก.พ.2561 นี้แหละคือความลึกซึ้งของคำว่า “การเมือง”
“พึงเอาชนะคำมดเท็จด้วยการพูดความจริง”
สำนักข่าววิหคนิวส์