24 พย.2560 ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์การเมือง การปกครอง ผู้ผลิตรายการ”เกาะติดสถานการณ์ ทางยูทูป ช่อง vihoknews ที่มีผู้ชมกว่า 100 ล้านวิว ได้โพสข้อความทางเฟสบุ๊คระบุว่า
การออกกฎหมายให้อำนาจกับ ข้าราชการท้องถิ่น ดำเนินการกับประชาชน โดยอ้างความมั่นคง ทั้งที่มีอำนาจล้นมือ เข้าใจว่าเป็นการปฏิรูปให้เป็นผู้ว่า CEO อันเป็นหลักเดิมของชายผู้น่าสังเวช ที่เคยทดลองนำมาใช้แล้วล้มเหลวในราวปี 2545 และนำมาใช้ในยุคหญิงผู้น่าสังเวช ในปี 2456 โดยใช้วาทกรรมเห่ยๆว่า “บูรณาการ”
นักการทหารคงไม่ทราบกระมังว่าเป็นหลักการปกครองที่ผิด ล้มเหลวมาแล้วในหลายยุคหลายสมัย และจะสร้างปัญหาอย่างมาก เมื่อพ้นจากอำนาจ อำนาจเหล่านี้จะตกเป็นของ “นักโกงเมือง” ในที่สุด คำแนะนำที่ให้นำหลักเหล่านี้มาใช้เป็นขบวนการเดิมของกลุ่มเหล่า “สนิม” ที่เกิดจากเนื้อในเหล็กที่เจตนา จะทำลายเหล็กอันแข็งแกร่งอย่างช้าๆ โดยใช้หลัก “นิติรัฐ” หรือกฎหมายที่รัฐเป็นผู้กำหนด อันจะเร่งปฏิกิริยาเชิงการต่อต้าน เชิงความล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง แสดงสู่สังคมมากขึ้น ชัดขึ้น อันจะส่งผลต่อความชอบธรรในการปกครอง
การที่เหล่า ”สนิม” ยุยงให้ดำเนินคดีกับ มาร์ค พิทบลู – กนก ก็เช่นกัน เป็นกลยุทธ์การทำลายล้าง พวกเดียวกัน รักชาติเหมือนกัน เพื่อเร่งปฏิกิริยาเชิงการต่อต้าน โดยให้คนในเร่งดำเนินการวางอุบาย แบ่งแยกศัครูจากภายใน สู่ผลแห่งภายนอก เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการล้มสลายขององค์การ
การไม่ได้รับการยอมรับเรื่องการตายของนักเรียนเตรียมทหาร ทั้งที่คดีไม่ได้มีอะไรซับซ้อน อันเกิดจากขาลงทางการเมือง ยาม “วิกฤติศรัทธา” การจะพูด จะอธิบายอย่างไร สื่อก็จะไม่เชื่อถือ หากเหตุเดียวกันเกิดก่อนหน้านี้สัก 6 เดือนจะมิเป็นเช่นนี้ เพราะมีคำสั่งที่หลุดมาจากปาก”ให้เอาผิดกับสื่อ” จึงโดนสื่อย้อนรอย เล่นงานทางอ้อม อันเป็นกลยุทธ์ หนทางของผู้นำที่ขาดสติ หมดหนทางแก้ไข และมักจะหันมาเล่นงานสื่อ อันจะเกิดในทุกยุคทุกสมัยในยามขาลง “วิกฤติศรัทธา” ที่ใกล้จะสิ้นสุดในทุกรัฐบาล ตลอด 85 ปีที่ผ่านมา อันเป็นสัญญาณทางการเมืองที่สำคัญ
คงลืมคำเตือนจากผู้ใหญ่กระมังว่าให้พูดน้อยๆ หรือหยุดพูด ออกทีวีก็ไม่ควรเกิน 20 นาที เพราะยิ่งพูดยิ่งทำให้เร่งปฏิกิริยาทางการเมือง เชิงการต่อต้านให้รุนแรงขึ้น เพราะตามดวงของเจ้าชะตา เลข 4 การใช้คำพูด ภาษา วาจา ในดวงเกิดตกในภพวินาศ พูดว่าแต่ละคำมีแต่เชียร์แขก จะดีเพียงระยะต้น
การเมืองเป็นเรื่องลึกซึ้ง ซับซ้อน ยอกย้อนกลอุบาย ดูเหมือนคล้ายการทหาร แต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดั่งขนตาที่อยู่ใกล้ตา แต่กลับมองไม่เห็น ปฏิกิริยาทางการเมืองในเชิงลบที่เกิดขึ้น ตามสถิติแล้ว จะเกิดความรุนแรง ด้านความน่าเชื่อถือเกิดขึ้นอีก และจะเกิดปรากฎการณ์ทางการเมือง เหตุการณ์ในเชิงลบเกิดมากขึ้น แน่นอนย่อมจะเกิดจุดแตกหักในที่สุด ด้วยตัวของมันเอง
อันศึกในครานี้ได้เคยเตือนตั้งแต่ต้นว่า จะทำการมิสำเร็จ เมื่ออยากลองก็ได้ทำ เพราะมิอยากขัดแย้งแต่วาทกรรมสำคัญ คือ “ยึดแล้วต้องเป็นเอง” ขาดซึ่งประสบการณ์ การศึกษาการเมืองอย่างลึกซึ้ง มองการเมืองแค่ตามองเเห็น ไปเปรียบเทียบการเมืองเพียงปี 2549 โดยไม่ศึกษาในส่วนอื่นๆ การเมืองจึงเป็นดั่งงูพิษ ที่กำลังย้อนกลับมาเล่นงาน คนไม่ประสาการเมือง ย่อมเจอผลอย่างแสบเผ็ดในที่สุด การ “ถอยเพื่อรุก” จึงจะเป็นทางออกที่รอดพ้นภัย “ฟันธง” หากเดินหน้าต่อ เมื่อมิตรกลายเป็นศัตรูแล้ว ประชาชนย่อมแห่ไล่ จบที่ไร้แผ่นดินอยู่ทุกรายไป ด้วยความปราถนาดี
“ ตำแหน่งอยูได้ไม่นาน ตำนานอยู่ตลอดไป “
สำนักข่าววิหคนิวส์