วิหกนิวส์ต้องเลยว่ามีรายงานว่า มีผู้เสีย เพศหญิงวัย 61 ปี น.ส.ละออง อาศัยอยู่ที่ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี สาเหตุการเสียชีวิตมาจากกลืนเม็ดกระท้อนเข้าไป ทำให้เม็ดขูดผนังลำไส้ทะลุ
โดย น.ส.ศริญญา อายุ 30 ปี บุตรสาว กล่าวว่า มารดาของตนนั้นเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงลูกหลานจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางแพทย์บอกว่าอาหารเป็นพิษ จากนั้นได้ให้กลับบ้านแต่เกิดปวดท้องอีกและมีเลือดไหลไม่หยุด
จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้งทางแพทย์ จึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจังหวัด และได้ให้มีการเอ็กซเรย์พบเม็ดกระท้อนอยู่ในลำไส้จึงรีบผ่าตัดเอาเม็ดกระท้อนออก 1 เม็ด แต่เนื่องจากลำไส้ทะลุพร้อมกับมีอุจจาระปนอยู่ในช่องท้องทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตลงในที่สุด
ทั้งนี้ น.ส.ศริญญา ยังได้กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่รู้ข่าวแบบนี้มาก่อนเลย แต่ต่อไปนี้จะระวังให้มากขึ้น ใจะจำไว้เป็นอุทาหรณ์ หรือทางที่ดีไม่ต้องกินเพราะอาจเป็นอันตราย หรือถ้ากินก็อย่ากลืนเม็ดลงท้องจะปลอดภัยที่สุด กินผลไม้ก็ควรเอาเม็ดออกทุกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของ นางบังเอิญ อายุ 68 ปี กลืนกระท้องเข้าไปถึง 4 เม็ด แพทย์ต้องรีบผ่าตัดเอาออก แต่นางบังอรก้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งในตอนนั้น ผศ.นพ. ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และศัลยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร เปิดเผยว่า การเผลอหรือตั้งใจกลืนเมล็ดกระท้อนเข้าไปนั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ เนื่องจากเมล็ดกระท้อนมีลักษณะลื่น แข็ง และปลายข้างหนึ่งคม เมื่อกลืนเข้าไปปลายด้านที่แหลมอาจไปขูดผนังกระเพาะอาหาร และลำใส้เล็กให้เกิดบาดแผลได้ แต่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บอุจจาระก่อน ขับออกจากร่างกายนั้นมีผนังบางกว่านั้น ปลายแหลมจึงอาจทำให้ผนังฉีกขาดได้ ทำให้อุจจาระซึ่งเป็นของเสียรั่วไหลไปอยู่ในช่องท้อง จึงเกิดการติดเชื้อ รุนแรงถึงขั้นอาจทำให้เสียชีวิตได้ หรือนอกจากนี้ ลักษณะของเมล็ดที่มีความลื่น อาจเสี่ยงต่อการสำลักแล้วเข้าไปอุดบริเวณหลอดลม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน