นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ได้เผยการถอดรหัสดวงดาวกับการตัดสินคดี 30 ก.ย. ผ่านทางเฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริ โดยระบุว่า ทั้งๆที่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเขากำหนดตัดสินคดีในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ก็แค่อีก 10 กว่าวัน แต่คนก็อยากรู้กันว่านายกพลเอกประยุทธ์จะรอดหรือไม่รอด วิเคราะห์กันไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าไม่รอด บ้างก็ว่ารอด ด้วยเสียงเท่านั้นเท่านี้ โดยมี 5ต่อ4เสียงที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเสียงตั้งต้น ตั้งแต่ท่านหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดูกระแสทั้งภายในและภายนอกสภามันก็เงียบๆสงบ ไม่มีอะไรเท่าไหร่ อาจจะเริ่มมีแรงปะทะระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันในโค้งสุดท้ายปลายสมัยประชุม เอาล่ะ… ที่ผมเคยบอกว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ด้วยอิทธิพลของดาวมฤตยูและราหูที่ทับดวงเมือง จะไปผ่อนคลายก็เม.ย.ปีหน้าโน่น
วันที่ 30 ก.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไร ไม่มีใครรู้ เป็นเรื่องคาดเดากันทั้งนั้น ศาลแต่ละคนเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองจะตัดสินอย่างไร และใครคิดอย่างไร ผมเองก็ไม่รู้จริงๆ ก็คาดเดาเหมือนที่คนอื่นคาดเดา แต่ขอเอาดวงดาวในวันที่ 30 ก.ย.มาวางและถอดรหัสให้ดูกันทีละดวงดีกว่า ในวันนั้นดาวพฤหัสเป็นวินาศกับลัคนาดวงเมือง ดาวอาทิตย์และดาวศุกร์เป็นอริกับดวงเมือง จันทร์เป็นมรณะกับดวงเมือง อังคารอยู่เรือนกดุมภะแต่ถูกดาวมฤตยูทับไว้… ในพื้นของดวงดาวเหล่านั้นยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูและราหูทับดวงเมือง หมายความว่าความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน ความพลิกผันกับผู้มีอำนาจพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้เสมอ ดาวพฤหัสคือเลข5 อยู่ในเรือนวินาศยังแรงอยู่ หมายถึงผู้มีอำนาจผู้ทรงอิทธิพลจะหมดฤทธิ์หมดเดชหมดอำนาจ เลข5จะเกี่ยวกับ5ต่อ4 ที่ผ่านมาหรือไม่..ไม่รู้
แต่ช่างเหมาะเหม็งกันเหลือเกิน ดาวอาทิตย์เป็นเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่ก็เป็นอริกับดวงเมือง อาทิตย์คือหมายเลข1 ส่งพลังแห่งความเป็นอริแรงมากในวันนั้น เลข1จึงอาจจะมารวมกับเลข5 เป็น 5 + 1 = 6 ก็เป็นไปได้ ดาวจันทร์อยู่ในเรือนมรณะ หมายถึงความมีโชคมีชัยและชัยชนะ อับแสง เดือนดับ ไม่สว่างไสว ยิ่งในวันนั้นดาวอังคารหมายถึงดาวทหารซึ่งเป็นดาวประจำตัวก็ถูกอับแสงด้วยมฤตยู ฤทธิ์เดชของดาวอังคารเลยหมดพลัง ขาดความขลังความศักดิ์สิทธิ์