ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ ได้เข้าไปติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากได้เคยยื่นเพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เนื่องจากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 151 และมาตรา 157 กฎหมายอาญา ไม่กำกับดูแลดำเนินการเอาผิดต่อบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ใน จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และ พิษณุโลก ตามอำนาจหน้าที่กฎหมาย ซึ่งมีคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างตรวจสอบขณะ
นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้ในพื้นที่ของเหมืองทอง ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ด้านกลุ่มประชาสังคมฯ ขณะนี้ได้เดินหน้าติดตามเรื่องร้องเรียนที่สำนักงาน ป.ป.ช. ในการยื่นเรื่องตรวจสอบและถอดถอนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ที่มีการปล่อยปละละเลย ไม่ยอมให้มีการตรวจสอบและถอนใบอนุญาตการทำเหมืองของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ใน จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และ พิษณุโลก ตามอำนาจหน้าที่กฎหมาย
ทั้งนี้ การเพิกเฉยและปล่อยปละละเลยของนายสุริยะ ทำให้เรื่องทั้งหมดเดินทางไปถึงอนุญาโตตุลาการ ทำให้ประเทศไทยต้องไปต้อสู้คดีในระดับโลก ซึ่งถ้านายสุริยะ และผู้ที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบและดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทอัคราฯ ทางบริษัทนี้จะไม่มีตัวตนไปร้องเรียน หรือฟ้องร้องในอนุญาโตตุลาการได้
“ดิฉันมองว่า เรื่องนี้อาจมีเบื้องหลัง เพราะมีอีกหลายประเด็นที่ทางนายสุริยะยังไม่เปิดเผยให้กับประชาชนได้ทราบ อาจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นและทางกลุ่มประชาสังคมไม่สามารถทราบได้เลยว่าทางรัฐบาลไทยจะเอาข้อมูลอะไรไปต่อสู้ในอนุญาโตตุลาการ แต่เชื่อว่าถ้าทางรัฐบาลไทยมีข้อมูลที่แน่นพอ มีความโปร่งใส และการต่อสู้ในอนุญาโตตุลาการมีความตรงไปตรงมา รัฐบาลไทยไม่น่าจะแพ้ในคดีนี้” นางวันเพ็ญ กล่าว
