ดีเจนุ้ย-ธนวัฒน์ ประสิทธฺสมพร พร้อมด้วย คุณจิ๊บ-ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์ เข้าชี้แจงกรณีถูกแอบแฝงทำธุรกิจขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 พ.ค.61 ที่ สคบ. ชั้น 5 อาคารบี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ “ดีเจนุ้ย-ธนวัฒน์” พร้อม “นางสาว จิ๊บ -ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์”ผู้บริหารของบริษัท แอบโซลูท บาย จิ๊บ จำกัด ร่วมแถลงกรณีที่มีกระแสข่าวพาดพิงถึงธุรกิจอาหารเสริมของตนเองว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ จนทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด พร้อมเข้ารับหนังสือแจ้งผลการหารือรูปแบบการประกอบธุรกิจว่าจะต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดังนั้นรูปแบบการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ จึงไม่ใช่การประกอบธุรกิจขายตรงและธุรกิจตลาดแบบตรงตามคำนิยมในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ณ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ) ศูนย์ราชการ อาคาร B ชั้น 5 สคบ.พร้อมตรวจรูปแบบธุรกิจขายออนไลน์ ป้องกันธุรกิจแชร์ลูกโซ่แฝงตัวด้านดีเจชื่อดัง รูปแบบธุรกิจขอความมั่นใจจาก สคบ
นายธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร หรือดีเจนุ้ย พร้อมด้วย นางสาวชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์ ผู้บริหารของบริษัท แอบโซลูท บาย จิ๊บ จำกัด เดินทางเข้ารับผลการตรวจสอบธุรกิจ หลังได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคให้ตรวจสอบโครงสร้าง ข้อมูลธุรกิจว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
นางสาวชนม์นิภา เปิดเผยว่า หลังเกิดกระแสข่าวการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ไปในทิศทางลบ ทำให้เกิดความกังวลใจ จึงนำเอกสารรูปแบบของธุริกิจ มายื่นให้ สคบ.ตรวจสอบ ซึ่งทาง สคบ.ได้รับรองแล้วว่าแบรนด์นี้ ไม่ใช่ธุรกิจขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่ เป็นเพียงธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ซึ่งรูปแบบของธุรกิจไม่มีการรักษายอด ไม่มีจำนวนเงินที่ต้องลงทุน จึงไม่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
ส่วนการมีตัวแทนจำหน่ายนั้น นางสาวชนม์นิภา กล่าวว่า ทางบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ อบรมตัวแทนอย่างใกล้ชิด อาจมีตัวแทนบางส่วน โฆษณาสินค้าผ่านออนไลน์ในข้อความที่อาจสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นธุรกิจลูกโซ่
ด้านดีเจนุ้ย พิธีกรชื่อดัง ระบุว่า … ตัวเอง ก่อนที่จะเข้ามาทำธุรกิจเสริมความงาม ได้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน มีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้แน่ชัด เน้นคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก และต้องดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น เพื่อปกป้องปัญหาที่จะเกิดขึ้น ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของคนในวงการบันเทิง ซึ่งหลังจากการให้สคบ.ตรวจสอบ และผลออกมาแล้วว่าถูกต้องทำให้สบายใจมากขึ้น
ขณะที่ พล.ต.ต. ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า หากผู้ประกอบธุรกิจขายของออนไลน์ ที่ไม่มั่นใจในรูปแบบธุรกิจว่ามีลักษณะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ สามารถนำมาให้ สคบ.ตรวจสอบ ร่วมถึงข้อความโฆษณาเพื่อไม่ให้เกิดการโฆษณาเกินจริง ซึ่งขณะนี้ ทาง สคบ.ได้รับแจ้งจากผู้บริโภคว่ามีสินค้าเกี่ยวกับเสริมอาการ และความสวย ความงาม มีผู้ร้องกว่า 150 ราย โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริมผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
สำนักข่าววิหคนิวส์