ผมไม่ได้ทำงานแบบทหาร
แต่ ผมเป็นนักการเมือง
“บิ๊กตู่”ดีใจ ที่บ้านเมืองเงียบๆ สงบเรียบร้อยดี จะได้ขับเคลื่อนงานอื่นๆ โดยเฉพาะ ด้านเศรษฐกิจ
ชี้ วันนี้ผมไม่ใช่ข้าราชการ แต่ทำงานทั้งการเมือง
ยัน ผมไม่ได้ทำงานด้วยระบบทหาร หลายอย่างที่ผมได้เรียนรู้ตลอดระยะเวลา 5-6 ปี ผมถือว่ามีคุณค่ากับตัวผม และผมคิดว่าจะทำตัวให้มีคุณค่ากั
.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4 /2563 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2563
พร้อมกล่าวว่า วันนี้ถือโอกาสของหัวหน้าส่วนราชการที่เกษียณอายุและมีรับประทานอาหารกัน ขอบคุณข้าราชการในฐานะผู้ปฎิบัติหน้าที่โดยตรงในการทำแผนงานต่างๆลงสู่ประชาชน ฝ่ายการเมืองเป็นระดับนโยบาย มีการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ ขับเคลื่อนโดยข้าราชการ ท้องถิ่น และประชาชน โดยนำข้อมูลมาบูรณาการผสมผสาน วิเคราะห์สิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำ และจะทำที่ไหนอย่างไร ซึ่งจะต้องร่วมมือกันให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมกับประชาชนโดยเร็ว
สำหรับเรื่องอื่นๆ ผมได้รับทราบสถานการณ์มาโดยตลอด และที่สภาก็มีการประชุมเกี่ยวกับการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ รับฟังกันต่อไปก็แล้วกัน
“ ดีใจที่บ้านเมืองเงียบๆ สงบเรียบร้อยดี จะได้ขับเคลื่อนงานอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจซึ่งมีหลายมาตรการที่ออกไป และอีกหลายอย่างจะทยอยออกมาในเดือนตุลาคมอีก
จะเห็นได้ว่าเรามีการวางแผนเป็นระยะ เป็น 4 ห้วงจนถึงเดือนกรกฎาคมปีหน้า ก็ได้เตรียมงบประมาณไว้ใช้อย่างระมัดระวังและเกิดประโยชน์สูงสุด”
สิ่งสำคัญอยากฝากเรียนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหรือประชาชนที่ทำอาชีพอิสระในการขายของจะต้องเรียนรู้การใช้คิวอาร์โค๊ด ตอนนี้ได้ฝากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ชี้นำให้ประชาชนเข้าใจว่าจะลงทะเบียนอย่างไร เพื่อใช้อีวอลเล็ตในการซื้อของ เป็นการนำไปสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทุกคนต้องค่อยๆเรียนรู้ ซึ่งวันนี้มีอยู่ 3 พวกคือ เรียนรู้ใช้ประโยชน์เก่งแล้ว พวกที่กำลังจะเก่ง และที่ยังไม่เก่ง รัฐบาลก็ต้องนำเป้าหมายเหล่านี้มาแยกดำเนินการอาจมีปัญหาอยู่บ้างในการเปลี่ยนระบบจากออนไลน์เป็นออฟไลน์ ต้องเพิ่มขีดความสามารถกันต่อไป ไม่มีอะไรที่ทำงานแล้วไม่มีอุปสรรค แต่ขอให้ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนได้ย้ำข้าราชการ ไม่ว่าจะเกษียณไปแล้วหรือที่ยังไม่เกษียณก็ต้องร่วมทำงานต่อไป เพื่อรักษาประเทศชาติประชาชนของเราให้ดีที่สุด
ตนได้สั่งการให้ทำงานในลักษณะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้น คนกลุ่มไหนประเทศอะไรจะต้องมีข้อมูลที่สมบูรณ์ ถึงเวลาจะดำเนินการได้ทันที ถ้าเราทำหวานไปหมดทุกอันมันก็ได้แต่ตรงนั้น หว่านไปแต่มูลค่าไม่เกิด ฉะนั้นบางอย่างที่ต้องให้เพื่อเกิดความเท่าเทียม อันนี้ต้องให้ทั่วถึง และดูการเพิ่มขีดความสามารถและปัญหาว่าอยู่ตรงไหน ถ้ามองย้อนกลับไป 4-5 ปี สิ่งเหล่านี้ไม่มีเลย เรามาเริ่มสร้างพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้พอมีโควิด-19 เข้ามาก็สามารถนำมาใช้ได้แต่ก็ยังมีปัญหา เพราะมันเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน
ซึ่งอยากจะขอความเข้าใจจากประชาชน ขณะเดียวกันได้ขอให้ทุกกระทรวงทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องของวิธีการทำงาน ซึ่งเขาอาจจะรู้แต่ผลลัพธ์ แต่ไม่รู้ที่ทำมาต้องเจออะไรบ้าง ตรงนี้ตนอยากให้สังคมได้รับรู้จะได้ไม่มีใครมาใช้ประโยชน์ในการบิดเบือนเรื่องโน้นเรื่องนี้กันต่อไป ตรงนี้ได้รับปากกันไปแล้ว
“วันนี้ถือเป็นวันมงคลอีกวันหนึ่ง ผมถือว่าเขาเป็นครอบครัวของเรา ครอบครัวของคนไทย ครอบครัวประเทศไทย ครอบครัวข้าราชการ ในฐานะผมเป็นข้าราชการมาก่อน
แต่วันนี้ผมทำงานไม่ใช่ข้าราชการ ทำงานทั้งการเมืองและอย่างอื่นด้วย และผมก็เรียนรู้จากข้าราชการทุกกระทรวงทุกหน่วยงาน และผมก็นำมาประยุกต์ว่าจะอยู่และทำงานได้อย่างไรกับเขา
ไม่ใช่ว่าผมทำงานด้วยระบบทหาร หลายอย่างที่ผมได้เรียนรู้ตลอดระยะเวลา 5-6 ปี ผมถือว่ามีคุณค่ากับตัวผม และผมคิดว่าจะทำตัวให้มีคุณค่ากับบ้านเมืองของเรา กับประชาชนของเรา เพียงแต่ขอความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมืองของเรา เรื่องอื่นๆ ช่วงนี้ขอให้ผ่านพ้นไปก่อน”นายกฯกล่าว