ตร.นครพนมเดินหน้าลุยคดีครูจอมทรัพย์ เผยออกหมายเรียกกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว 13 ราย ดำเนินคดีไปแล้วรวม 9 ราย เหลือหลานสาว-ทนายครูฉาวเล่นแง่เลื่อนนัดมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่ดีเอสไอร้อนตัวอย่างหนักหลังรองผบ.ตร.ระบุชัดเจน มีจนท.ดีเอสไอเอี่ยวผิดทั้งที่มีหลักฐานคำสารภาพจากเครื่องจับเท็จชัดเจนแต่ยังเดินหน้ารื้อฟื้นคดี โยนเผือกร้อนใส่รองปลัดยุติธรรมเต็มเปา
11 ธ.ค.60 แนวหน้า พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ว่า ทางคณะทำงานได้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการ ได้มีการออกหมายเรียกกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว 13 ราย ดำเนินคดีไปแล้วรวม 9 ราย
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างควบคุมตัวชั่วคราวที่เรือนจำกลางนครพนม เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว มี 2 ราย คือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร และ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ผู้จัดตั้งขบวนการ มีกำหนดฝากขัง ทั้งหมด จำนวน 4 ผลัด ผลัดละ 12 วัน อีก 7 ราย ได้รับการประกันตัวไปแล้ว มีสอบไว้เป็นพยาน 2 ราย
นอกจากนี้ เหลืออีก 2 ราย ที่อยู่ระหว่างการออกหมายเรียก คือ น.ส.วาสนา เพชรทอง เป็นหลานสาว ซึ่งได้มีการแจ้งเลื่อนนัดเข้าพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 14 ธ.ค.60 อีกราย คือ นายธณัช สุขตลอดปี เป็นทนายความส่วนตัวครูจอมทรัพย์ เลื่อนนัดพบพนักงานสอบสวน เป็นวันที่ 26 ธ.ค.60
พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินการไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 – 8 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา จำนวน 14 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณารวบรวมหลักฐานว่ามีส่วนไหนที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือขบวนการหรือไม่ ต้องรอการพิจารณาสรุปจากคณะทำงานอีกครั้ง
วันเดียวกันนี้ คณะโฆษกดีเอสไอได้ชี้แจงกรณี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ออกมาแถลงว่า มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่เกี่ยวข้องในการรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ บางคนอาจมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เนื่องจากมีรายงานวิเคราะห์การจับเท็จของดีเอสไอพบว่ามีการว่าจ้างให้การอันเป็นเท็จเพื่อช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ยังมีความพยายามผลักดันเพื่อรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ต่อไปนั้น
ทางดีเอสไอขอชี้แจงว่า 1.กรณีการช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ในการรื้อฟื้นคดี เป็นการดำเนินการของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม มีรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ที่ผ่านมามีการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดดีเอสไอบางคนไปช่วยปฏิบัติงานที่ศูนย์ดังกล่าว โดยอยู่ในบังคับบัญชาของรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ตามที่เคยชี้แจงไปแล้ว
2.ดีเอสไอได้รับการร้องขอเป็นหนังสือจากรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ขอนำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการขอรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์เข้าเครื่องจับเท็จของดีเอสไอ เพื่อวิเคราะห์คำให้การในเบื้องต้น โดยดำเนินการช่วงวันที่ 1 – 3 ก.พ.60 และดีเอสไอได้มีหนังสือส่งผลการวิเคราะห์ดังกล่าวให้กระทรวงยุติธรรมทราบ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.60 การใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรมที่จะพิจารณา เนื่องจากมิใช่คดีพิเศษที่จะอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ
3.ในส่วนการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์นั้น กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขอให้รอผลการพิจารณาของกระทรวงเพื่อให้เกิดความชัดเจน
4.เพื่อให้ความจริงปรากฏ ดีเอสไอพร้อมสนับสนุนการดำเนินการทั้งในส่วนกระทรวงยุติธรรมและตำรวจให้เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.60 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เป็นประธานการประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกูล ผบก.ภ.จว.นครพนม และพนักงานสอบสวน คดีสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพื่อรับผิดแทนครูจอมทรัพย์
โดย รอง ผบ.ตร.ระบุว่า พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงยุติธรรมขอข้อมูลการสืบสวนสอบสวน เพื่อนำมากำหนดประเด็นและตัวบุคคล ที่จะต้องเรียกมาสอบสวน คาดว่า 1 – 2 วัน กระทรวงยุติธรรมจะส่งเอกสารให้พนักงานสอบสวน ในจำนวนนี้รวมถึง พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งสนับสนุนการรื้อฟื้นคดี โดยจะสอบในฐานะพยาน ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งจะต้องดำเนินการหลังมีผู้เข้ามาร้องเรียน
และเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.60 ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จำนวน 7 คน ชุดแรก เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตามที่นัดไว้ ส่วนวันที่ 8 ธ.ค.60 มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อีก 5 คน จาก 7 คน เดินทางไปให้ปากคำเป็นชุดที่สอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำให้การว่ามีข้อพิรุธอย่างไรหรือไม่
สำนักข่าววิหคนิวส์