19 สิงหาคม 2567 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” หัวข้อ “เอาแล้ว” ระบุว่า…
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
เอาแล้ว
ยังไม่ทันได้ถวายสัตย์ปฏิญาณเลย ก็มีคนจ้องจองกฐินเสียแล้วหรือ ว่าที่ท่านนายกรัฐมนตรีเงาของคุณพ่อทักษิณ
ได้ยินข่าวแว่วๆ มาว่า หลังจากผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณ จะมีหลายคนเตรียมตัวจ้องจองกฐินถวายสังฆทานท่านนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของตระกูลชิน
หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า อะไรกัน ยังไม่ได้ทำงานเลย จะมีเหตุอะไรให้ต้องถูกจองกฐิน
พุทธะอิสระก็พยายามจะนึกว่า เอ…เขามีประเด็นอะไรที่จะหยิบยกขึ้นมาเป็นเหตุให้ถูกจ้องจองกฐินกันบ้างน่า หากถ้าจะมี ก็คงไม่พ้นประเด็นที่คนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาด่ากันให้เซ็งแซ่ก็คือ
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
1.นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่หาเสียงเอาไว้ว่า เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วจะแจกทันที แล้วจะไม่ต้องกู้แม้แต่บาทเดียว แต่พอได้เป็นรัฐบาลแล้ว พรรคเพื่อไทยก็ออกมาบอกว่า จำเป็นจะต้องกู้เงินมาแจกเป็นเงินดิจิทัล วงเงินกู้ 5 แสนล้านบาท จวบจนเวลาผ่านไป 1 ปี ประชาชนก็ยังไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ทั้งที่ตอนหาเสียงก็ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าจะไม่กู้ นี่ก็เป็นประเด็นที่จะถูกจองกฐิน
แต่หลังจาก อุ๊งอิ๊งค์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่ออย่างประมาณว่า ถามหมา ตอบแมว ซึ่งทั้งนักข่าวและคนฟังก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะแจกหรือไม่แจก
พุทธะอิสระฟังเธอเล่นวลี พลิ้วไหวไปๆ มาๆ แล้วก็สรุปได้ว่า แจกก็คุก ไม่แจกก็คุก
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
นี่ยังไม่รับรวมที่สัญญากับประชาชนเอาไว้ว่า หากได้เป็นรัฐบาลแล้ว ค่าน้ำ ค่าไฟ ราคาน้ำมัน และค่าครองชีพจะลดทันที นี่ก็เข้ามาปีที่สองแล้ว ทุกอย่างกลับแพงขึ้นกว่าเดิม แต่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกลับเงียบกริบ
นี่ก็อาจจะเป็นเหตุให้มีคนจ้องจองกฐินได้เหมือนกัน
2.ถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ทั้งที่เป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่มีผู้ใช้กลอุบายฉ้อฉล เล่นแร่แปรธาตุ จนสามารถนำมาขายให้คนตระกูลชินได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะนายกหญิงวัยละอ่อน ถือหุ้นอยู่ถึง 30% ทั้งที่เจ้าของเดิมเขายกให้เป็นสมบัติของพระศาสนา แต่สุดท้ายก็มาตกอยู่ในความครอบครองของนายทักษิณ
3.ปล่อยให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมของพรรคการเมืองและการแต่งตั้งรัฐมนตรี