เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 16 ก.พ. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตอนหนึ่งรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ทั้งมาตรา 112 มาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทั้งหมด เนื่องจากก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ ระบุ จะปิดประตูนิรโทษกรรม ตนขอถามว่าท่านพูดหมาๆ อย่างนั้นได้อย่างไร
ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในขณะนั้น กดปิดไมค์และขอให้นางอมรัตน์ ถอนคำพูดที่ว่า “นายกพูดหมาๆ” โดยนางอมรัตน์ได้ยอมถอนคำพูด โดยกล่าวว่า “ขอถอนคำพูดว่านายกพูดหมาๆ” นายศุภชัย จึงติงว่า ให้ถอนคำพูดก็พอไม่ต้องย้ำ ในสภาแห่งนี้เป็นสภาทรงเกียรติ ถึงแม้เราจะไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัว แต่ก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ควรนำคำพูดที่ไม่เหมาะสมมาใช้
นางอมรัตน์ จึงกล่าวสวนว่า ตนนำคำพูดที่ประชาชนฝากมา นายศุภชัย กล่าวตอบว่า จะนำคำพูดที่ประชาชนฝากมาพูดไม่ได้ ท่านอยู่ที่นี่ท่านเป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติ จะนำคำพูดที่ไม่มีหลักมาพูดไม่ได้
จากนั้นนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกขึ้นประท้วงประธานว่า การอภิปรายลักษณะนี้เป็นการใช้คำพูดที่หยาบ และมีการพูดเพื่อตอกย้ำ จะถอนและยังตอกย้ำ ซึ่งคำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นพิษต่อร่างกายเขาทั้งนั้น จึงขอให้ท่านประธานอย่าให้นางอมรัตน์พูดตอกย้ำเช่นนี้อีก
“สุภาพสตรีไม่น่ารักครับแบบนี้ สมาชิกที่เป็นสุภาพสตรีแบบนี้ปากอย่างกับหมา” นายนิโรธ กล่าว
ทำให้นายศุภชัย จึงสั่งให้นายนิโรธถอนคำพูด นายนิโรธ จึงย้ำว่า ขอถอนที่ว่า “สุภาพสตรีปากหมา” ขอถอนออก ขณะที่นางอมรัตน์ กล่าวว่า “ไม่เป็นไรค่ะ” จากนั้นนายศุภชัย จึงสั่งห้ามพูดคำนี้อีก และขอให้เจ้าหน้าช่วยตัดออกด้วย เพราะเก็บไว้ก็อายลูกหลานในอนาคต