พลังประชารัฐตั้งทีมกฎหมายรวบรวมข้อมูลที่พรรคอื่นโจมตี “ลุงตู่” และพรรคพลังประชารัฐ ให้ประชาชนเข้าใจพรรคผิด เผยหลังเลือกตั้งยื่นเรื่อง กกต.แน่ มีกรณีที่ถึงขั้นยุบพรรคได้ ด้าน “สนธิรัตน์” หาเสียงเลือก”ลุงตู่” บ้านเมืองสงบกว่าเลือก สุดารัตน์ – อภิสิทธิ์
วันที่ 19 มี.ค. นายธนกิจ จิตอารีย์รัตน์ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่าขณะนี้ทีมกฎหมายและทีมสารสนเทศของพรรคพลังประชารัฐ เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อมูลที่มีบุคคลหรือพรรคการเมืองอื่น กระทำสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อพรรคพลังประชารัฐ แกนนำพรรค รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฐานะแคนนิเดตนายกฯ ที่พรรคเสนอชื่อ โดยเฉพาะการใส่ร้าย ป้ายสี และจูงใจให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อพรรคพลังประชารัฐ เบื้องต้นทีมงานรวบรวมรายละเอียดไว้พอสมควร และคาดว่าจะนำพยานหลักฐาน ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังการเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค. และบางกรณีพบความผิดที่เข้าข่ายนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองได้ด้วย
“ประเด็นที่พบตอนนี้คือการใส่ร้ายว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่สืบทอดเผด็จการ จากบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคไปแล้ว ถือเป็นการใช้วาทกรรมเพื่อใส่ร้ายและโจมตีให้เสียคะแนนนิยม โดยข้อเท็จจริงพรรคพลังประชารัฐ เป็นสถาบันทางการเมืองที่จัดตั้งตามกติกาที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ2560 ทุกประการ นอกจากนั้นยังพบประเด็นของการทุจริตการเลือกตั้ง ที่สมาชิกพบเห็นว่ามีการแจกสิ่งของและแจกเงินเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เลือกพรรคนั้นๆ ด้วย” นายธนกิจ กล่าว
ด้านแกนนำพรรค แยกย้ายกันหาเสียงกันต่อเนื่อง โดย ที่ จ.ศรีสะเกษ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัย ณ โดมวรรณากลาง สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ ตอนหนึ่งว่า วันนี้กระแสพรรคพลังประชารัฐคะแนนมาท่วมท้นทั่วประเทศ เพราะพี่น้องอยากได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี 4 ปีที่ผ่านมาท่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบริหารประเทศด้วยความเข้มแข็ง ไม่มีความขัดแย้ง ประเทศชาติสงบสุข เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้า ปัญหาหลายอย่างได้มีการแก้ไขทั้งเรื่องปากท้อง เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่พรรคเราจะทำต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตรและเพิ่มสิทธิให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ สตรีตั้งครรภ์ และเด็ก นอกจากนี้ยังมีนโยบายลดเหลื่อมล้ำเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรมีเงินเหลือกินเหลือใช้กันถ้วนหน้า ตลอดจนนโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นเวลา 3 ปี
“วันที่ 24 มี.ค. นี้ พี่น้องจะเลือกคนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง ถ้าพี่น้องเลือกพรรคตระกูลเพื่อจะได้คุณหญิงสุดารัตน์ มาเป็นนายกฯ ถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ก็จะได้นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ ถามว่าระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์กับอภิสิทธิ์ เมื่อเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ พี่น้องเชื่อว่าคนไหนจะทำบ้านเมืองสงบ พี่น้องจะเลือกใคร ลุงตู่ทำบ้านเมืองสงบมา 4 ปีแล้ว” นายสนธิรัตน์ ระบุ
Cr.workpointnews
สำนักข่าววิหคนิวส์