มติครม.วันที่ 1 ก.พ. 65 เห็นชอบตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาข่าวปลอม ด้วยการเห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ทุกกระทรวงและทุกจังหวัดทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังให้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์” ได้แก่ ศูนย์ประสานงานกลาง ศูนย์ประสานงานประจำกระทรวง และศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ให้สำนักงานปลัด ดศ. จัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์กลาง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์
และให้มีอำนาจและหน้าที่ในการประสานงานกับศูนย์ประสานประจำกระทรวงและศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด รับรองข่าวปลอมสำหรับข้อมูลในความรับผิดชอบของ ดศ. ดำเนินการตามกฎหมายกับข่าวปลอมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ข้อมูล และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวปลอม
สร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อสอดส่องดูแลข้อมูลข่าวสารปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งติดตามผลการดำเนินคดีเกี่ยวกับข่าวปลอมของกระทรวงและจังหวัดในกรณีที่เป็นเรื่องสำคัญ เร่งด่วน มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง และติดตามผลการดำเนินการของศูนย์ประสานงานประจำกระทรวงและประจำจังหวัด
ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัด ดศ. กำหนดและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานของศูนย์ประสานงานกลางเพื่อปฏิบัติงานตามอำนาจและหน้าที่ดังกล่าว
2. ให้ทุกกระทรวงจัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ประจำกระทรวง โดยให้ศูนย์ประสานงานประจำกระทรวงมีอำนาจและหน้าที่รับแจ้งข้อมูลที่สงสัยว่าอาจเป็นข่าวปลอมเพื่อตรวจสอบและพิจารณาเนื้อหา
รับรองข่าวปลอมสำหรับข้อมูลในความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวปลอมในความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง ดำเนินการตามกฎหมายกับข่าวปลอมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยให้ปลัดกระทรวงแต่งตั้งหรือมอบอำนาจให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรับรองข่าวปลอม เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวปลอม และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจและหน้าที่ดังกล่าว
3. ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ประจำจังหวัด โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด
โดยศูนย์ประสานงานประจำจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่รับแจ้งข้อมูลที่สงสัยว่าอาจเป็นข่าวปลอม เพื่อตรวจสอบและพิจารณาเนื้อหา รับรองข่าวปลอมสำหรับข้อมูลในความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัด เผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวปลอมในความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัด และดำเนินการตามกฎหมายกับข่าวปลอมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยประสานกับศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ประจำกระทรวง
โดยให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งหรือมอบอำนาจให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรับรองข่าวปลอม เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวปลอม และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจและหน้าที่ดังกล่าว
ระเบียบสำนักนายกฯ ระบุอีกว่า เมื่อปรากฏว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือมีการเผยแพร่ข่าวปลอมในสื่อสังคมออนไลน์หรือในระบบคอมพิวเตอร์ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน กระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือก่อให้เกิดความเสียหายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงหรือจังหวัดใด
ให้เป็นหน้าที่ของศูนย์ประสานงานประจำกระทรวงหรือศูนย์ประสานงานประจำจังหวัดนั้น ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรับรองข่าวปลอมทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองข่าวปลอมและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบโดยเร็ว
ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวปลอมดำเนินการแถลงข่าวทันทีที่พบว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอมและแจ้งกรมประชาสัมพันธ์ภายใน 1 ชั่วโมง และให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบและต้องจัดให้มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนโดยเร็ว ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการตามที่กำหนดโดยไม่มีเหตุอันควร ให้ถือว่ากระทำผิดวินัย
กรณีข่าวปลอมใดที่เข้าข่ายหรือสมควรดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบตามระเบียบนี้ แจ้งให้ ดศ. ดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
และประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ ระยะเวลาและวิธีการปฏิบัติสำหรับการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ให้บริการ พ.ศ. 2560
กำหนดให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบนี้ต้องกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ของงานเพื่อการประเมินผลการดำเนินงานตามระเบียบนี้ โดยให้ ดศ. ทำหน้าที่ประเมินผลการดำเนินงานดังกล่าว
กำหนดให้หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นต้นสังกัดของสถานศึกษาทุกระดับการศึกษาและทุกประเภทการศึกษามีหน้าที่ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์ให้กับเด็กและเยาวชน สร้างความตระหนักและความรู้เท่าทันข้อมูลข่าวปลอมทางสื่อสังคมออนไลน์
โดยการเพิ่มเนื้อหาในรายวิชาที่ทำให้ผู้เรียนรู้เท่าทันและตระหนักถึงอันตรายของข่าวปลอมและสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อสังคม รวมทั้งจัดให้มีการวัดผลการเรียนดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการตามระเบียบนี้ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายของสำนักงานปลัด ดศ. โดยให้สำนักงบประมาณสนับสุนงบประมาณในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานปลัด ดศ.