ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » ตามรอยฆาตกร!!! ย้อนรอยคดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

ตามรอยฆาตกร!!! ย้อนรอยคดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

28 May 2017
1169   0

จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะหน้าตาดี ชาว จ. ชัยนาท ขาดสองท่อน ก่อนจะยัดถังดำฝังดินอย่างโหดเหี้ยม พร้อมนำสังกะสีเก่าจำนวน 3 แผ่น ปิดทับอำพราง ในป่าพื้นที่บ้านโนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบปากคำไปแล้ว 9 ปาก พบมีเบาะแสเพิ่มเติม

โดยคดีดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และได้รับความสนใจจากคนในสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนร้ายลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ขณะที่มีตัวละครเกี่ยวข้องหลายราย ทั้งสามีผู้ตายที่เพิ่งแต่งงานได้เพียง 3 เดือน และทอมที่มาติดพันกับผู้ตายอีก 3-4 ราย เพราะผู้ตายเป็นหญิงสาวหน้าตาดี โดยทีมข่าวขออนุญาตย้อนปมสังหารโหดดังกล่าวเป็นไทม์ไลน์ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ ดังนี้

25 พฤษภาคม 2560 ชาวบ้านพบศพหญิงสาว อายุประมาณ 20 ปี ใส่เสื้อชุดแซกเปิดหลังสีแดง สวมเสื้อยกทรงสีดำ ถูกฆ่าหั่นศพเป็สองท่อน โดยท่อนล่างใส่เพียงกางเกงในตัวเดียว แยกใส่ในถังดำ 2 ใบ ฝังลงดินในพื้นที่ บ้านโนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น มีรอยสักภาษาอังกฤษ ที่หน้าอกซ้าย คำว่า poppy ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท ทำงานเป็นสาวคาราโอเกะในร้านแห่งหนึ่งและพักอาศัยในเมืองขอนแก่น

ต่อมาวันเดียวกัน เจ้าหนาที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำ บุคคลใกล้ชิดกับผู้ตายจำนวน 4 ปาก ประกอบด้วย ทอมป๊อปปี้ , ทอมฝน รวมทั้งชายวัยรุ่นที่ร่วมวงดื่นสุรากับเพื่อนสาวที่เป็นทอม อายุ 18-20 ปี อีก 3 ปาก ซึ่งจากการสอบปากคำทั้งหมดสามารถให้การเจ้าหน้าที่อย่างฉะฉาน ไม่พบพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวไป ขณะที่จากการชันสูตร เบื้องต้นพบว่าผู้ตายถูกฆ่าเสียชีวิต ก่อนที่จะลงมือหั่นศพให้ขาดเป็นสองท่อน โดยพบว่าบริเวณเอวที่ถูกหั่นจนขาดนั้นมีรอยหั่นซ้ำหลายครั้ง

26 พฤษภาคม 2560 นางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย อายุ 42 ปี มารดาของน้องแอ๋ม ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 โดยยืนยันว่าศพที่พบ เป็นลูกสาวจริง เนื่องจากจดจำรูปพรรณส สัณฐาน และรอยสักได้เป็นอย่างดี พร้อมกับระบุว่า ลูกสาวแต่งงานกับ ศักดิ์ชัย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี ด้วยความเต็มใจ และมีการคบหากับสาวทอม ทั้งก่อนและหลังแต่งงานจริง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี ชาว จ.หนองคาย สามีของแอ๋ม ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยการสืบสวนเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่ง นายศักดิ์ชัย ให้การเป็นประโยชน์ว่าได้คบหาดูใจกับน้องแอ๋ม เมื่อเดือน พ.ย. 2559 ก่อนจะแต่งงานกันในเดือน ก.พ.2560 และรับรู้มาตลอดว่าน้องแอ๋มชอบคบหากับทอมและพูดคุยกับทอมหลายคน ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่เพราะรักจึงไม่คิดอะไร ยืนยันไม่ได้ฆ่าภรรยา เพราะ ไม่มีใครฆ่าคนที่รักได้ลง พร้อมยอมรับมีปากเสียงกับผู้ตายเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2560 เรื่องที่ผู้ตายขอกลับมาทำงานที่ขอนแก่น

27 พฤษภาคม 2560 ตำรวจได้เรียก น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือน้องป๊อปปี้ อายุ 22 ปี มาสอบปากคำอีกครั้ง โดย ป๊อปปี้ ให้การว่ารู้จักและคบหากับคนตายมาประมาณ 3 ปี ก่อนที่คนตายจะไปแต่งงานกับผู้ชาย ช่วงที่คนตายแต่งงานก็เลิกคบกัน มีบ้างที่ผู้ตายโทรศัพท์บอกเรื่องทุกข์สุขตามประสาคนรู้จักกัน สุดท้ายคนตายก็มาหาและอยู่ด้วยกันที่หอพักแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น และก็รู้ว่าคนตายคบหาและคุยกับสาวทอมอีกหลายคน ต่อมาเวลา 06.22 วันที่ 23 พ.ค.ติดต่อกับคนตายได้ครั้งสุดท้าย คนตายบอกว่ายังอยู่กับเพื่อน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อคนตายได้อีกเลย จึงรีบโทรศัพท์บอกพ่อ แม่ตัวเอง และแม่ของคนตาย ซึ่งแม่ของคนตายให้ตนเป็นคนแจ้งความคนหาย จึงเข้าแจ้งความช่วงบ่ายสองโมงวันที่ 24 พ.ค. และมาทราบข่าวอีกทีตอนตำรวจไปบอกพ่อแม่ที่บ้านว่าพบศพคนถูกฆ่าตายที่เขาสวนกวาง

27 พฤษภาคม 2560 น.ส.ภูริดา ไกยวินิจ หรือน้องฝน สาวทอม อายุ 32 ปี ให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ โดยระบุว่า ได้รู้จักกับผู้ตายเพียงอาทิตย์เดียว ทางเฟสบุ๊กและได้นัดเจอกินข้าวกัน 3-4 ครั้ง และในช่วงวันที่ 22 พ.ค.ก็ขี่รถไปรับน้องจากหอพักไปกดเงินที่ตู้ATM และทานข้าว ดื่มกันที่ร้านเหล้า ริมถนนหน้าเมืองในเมืองขอนแก่น กระทั่งเวลา 04.00 น.จึงขี่รถไปส่งน้องที่ปากทางเข้าหอพักแล้วก็แยกย้ายกัน จากนั้นก็วีดีโอคอลคุยกันประมาณ 1 ชม.ก็วางสายแยกย้ายกันพักผ่อน จากนั้นก็ติดต่อน้องไม่ได้อีก

ล่าสุด วันที่ 28 พ.ค.2560 เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสสำคัญว่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีมากกว่า 5 คน โดยมีทั้งชายและหญิง และกำลังเร่งขยายผลตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องปมกลุ่มธุรกิจลับ หรือไม่ โดยได้ข้อมูลของกลุ่มผู้ต้องสงสัยว่าได้หลบหนีไปกบดานอยู่ตามแนวชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน โดยกำลังเร่งติดตามตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นปัญหาส่วนตัวและชู้สาวทิ้งแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์วิเคราะห์ฉลามดำ กก.สส.3 บก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผ​​กก.สส.3 กล่าวกับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าการสืบสวนหาคนร้ายฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งรัดการหาข้อมูลคนร้าย คืบหน้าไปมาก ทั้งเรื่องรถของผู้ต้องสงสัย และเส้นทางที่คนร้ายใช้ แต่เปิดเผยไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อแนวทางการสืบสวน

ส่วนยานพาหนะของกลุ่มคนร้าย ยังไม่มีการชี้ชัดว่าเป็นรถอะไร แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรถกระบะ เพราะการขนวัสดุที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดนั้น มีหลายชิ้นที่เป็นชิ้นใหญ่ๆเช่นสังกะสี 3 แผ่น แต่ยังบอกไม่ได้ว่ารถกระบะรุ่นหรือยี่ห้อใดข้อมูลบางอย่างพูดมากก็กระทบการสืบสวน ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนกันอย่างเต็มที่ ส่วนโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนของคนตาย ที่หายไปนั้น จากการตรวจสอบยังไม่มีการเปิดใช้งาน ทำให้รู้ว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างรอบคอบและรัดกุมมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผ่านมาแล้ว 3 วัน จะมีการตั้งรางวัลนำจับให้กับพลเมืองดีในการแจ้งเบาะแส นำไปสู่การจับกุมคนร้ายหรือไม่ ผกก.สส.3 กล่าวว่า การสืบสวนยังไม่ถึงทางตัน ไม่อยากให้มองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานช้า เพราะความจริงแล้ว การสืบสวนยังเดินหน้าได้เรื่อยๆและคืบหน้าไปมาก แต่ข้อมูลบางอย่างจะเปิดเผยไม่ได้ เพราะจะกระทบการสืบสวนและสอบสวน การรวบรวมพยาน โดยเฉาะหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีและกลุ่มคนร้าย

สำนักข่าว vihoknews