เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบก.สปพ.(191) พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ร่วมแถลงผลการจับกุมนายก้อง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ 4/2561 ลงวันที่ 7 ม.ค. 2561 ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดขับรถจยย.โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น”
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณตลาดนัดทวีทรัพย์ ถนนร่มเกล้า แขวงร่มเกล้า เขตมีนบุรี กทม. และนายสัมพันธ์ แย้มมีเชาว์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมีนบุรี ที่ จ.125/2561 ลงวันที่ 8 ม.ค. 2561 ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดขับรถจยย.โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น” โดยสามารถจับกุมได้ที่ ซอยกิ่งแก้ว 33 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ต้องการปราบปรามเยาวชนที่มักจะรวมตัวแข่งรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะยามวิการ รวมทั้งยังก่อความวุ่นวายให้กับพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ซึ่งในวันนี้มีการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ขับขี่รถบนทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.2 ได้ผู้ต้องหา 104 คน เป็นเยาวชน 53 คน และอายุเกิน 18 ปี 51 คน โดยสามารถตรวจยึดรถ จยย.ได้ 79 คัน และพบปัสสาวะเป็นสีม่วง 3 ราย สืบเนื่องตำรวจบก.น.2 ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่า บริเวณถนนวิภาวดี และถนนสรงประภา มักมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันใช้รถจยย.ขับขี่บนท้องถนนในยามวิกาล ซึ่งก่อความเดือดร้อนและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ วันนี้เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้การจับกุมเจ้าของเพจทั้ง 2 รายได้นั้น เป็นผลจากการจับกุมเด็กแว้นในพื้นที่ บก.น.3 ซึ่งผลจากการสอบสวนเด็กแว้นที่สามารถจับกุมได้นั้นให้การว่า ได้มีการนัดผ่านเฟซบุ๊กทั้ง 2 เพจ เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนพบว่านายก้องเป็นเจ้าของเพจ “รถซิ่ง ร่มเกล้า” มีผู้ติดตาม 1,000 คน และนายสัมพันธ์ เจ้าของเฟซบุ๊ก “ไม่ได้เหลือ แต่เบื่อบ่อย (สจ กิ่งแก้ว)” มีผู้ติดตาม 2,300 คน โดยทั้ง 2 เพจ มีพฤติการณ์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวกันและแข่งรถจยย.กันบนทางสาธารณะ ก่อนจะมีการไลฟ์สดผ่านเพจของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับศาล ก่อนจะเข้าทำการจับกุม โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นบุคคลแกนนำที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้รายที่ 58-59 รวมขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแกนนำได้ 59 คน
Cr.dailynews
สำนักข่าววิหคนิวส์