คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงกว่า 30 ปีแล้ว สำหรับ ต๋อย ไตรภพ ลิมปพันธ์ บิ๊กบอส บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด ล่าสุดได้ทายาททั้งสองอย่าง พันธยศ(ตูน) ลิมปพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ และ ไตรตรา(ตาล) ลิมปพัทธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด มาเป็นมือซ้ายและมือขวา เพราะเมื่อรายการทีวีเดินทางมาอยู่ในยุคของทีวีดิจิตอล แน่นอนมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมากมาย ไหนจะเรื่องของสื่อออนไลน์ ที่เดี๋ยวนี้คนไม่ได้นั่งติดหน้าจอทีวีกันแล้ว ถึงเวลาที่เจนใหม่อย่างลูกๆ จะต้องกระโดดเข้ามามีส่วนร่วม โดยการแตกยอดจากธุรกิจเดิมของพ่อนี่ล่ะ กับโปรเจกต์ “ครัวคุณต๋อยรักษ์ขนมไทย”
ต๋อย “เรามานั่งคิดกันเรื่องขนมไทย ว่าเราจะทำยังให้กลับมาอยู่ในตลาดอีกครั้งนึง มีชื่อเสียง แล้วรันชีวิตของมันไปได้ เราอยากจะทำ คิดมานานแล้ว ตอนแรกๆ เราบอกตรงๆ ว่าไม่กล้า เพราะมองตลาดตอนที่เริ่มทำรายการครัวคุณต๋อย ตั้งแต่แรกเชื่อมั้ยเด็กไม่เคยกินข้าวเหนียวหน้ากลอย เด็กไม่รู้จักขนมบางชื่อที่เรารู้จักกันแล้ว ก็เลยต้องไปทำรายการก่อน ไปสร้างรายการให้ขนมกลับมา ให้แข็งแรงก่อน แล้วค่อยเริ่มหยอดสิ่งต่างๆ เข้าไป” เผยได้รับความสนใจมาก แต่ผิดเป้าหมายเพราะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือคนแก่ แทนที่จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ จึงพยายามต่อ… ต๋อย “ในที่สุดก็เอาลูกมาช่วย ลูกชายคนโต(ตูน) แล้วก็ลูกสาว(ตาล) คือที่ไปเรียกเขามาเนี่ย ไปเรียกเพื่อถามเขาว่าจะทำยังไงให้เป็นอย่างนี้ได้ เพราะเราแก่ไง เราก็คิดอย่างคนแก่ ก็คุยไปคุยมาเขาก็บอกว่าขนมไทยมันไม่น่าสนใจ เพราะเวลา อายุ ของมันสั้น และแพ็คเกจจิ้งของมันไม่ได้สร้างความน่าสนใจ” หลังจากได้ลูกๆ เข้ามาช่วยออกไอเดีย บวกกับประสบการณ์จากการไปเที่ยวต่างประเทศ และได้ไปซื้อขนมของประเทศต่างๆ นั้น ก็จะเห็นถึงความแตกต่างของแพ็คเกจจิ้ง จึงมาถ่ายทอดให้กับผู้ผลิตขนมเจ้าต่างๆ ในไทย แต่ยังไม่เป็นที่พอใจของตน จึงตัดสินใจทำเอง โดยนำขนมไทยดั้งเดิมมาบรรจุภัณฑ์กล่องพิมพ์ลายดอกไม้ไทย 3 แบบ 3 ลวดลายที่มีการออกแบบพิเศษ คัดสรรสุดยอดขนมไทย 27 ชนิด จาก 24 ร้านชื่อดังมาบรรจุในกล่องดังกล่าว
ต๋อย “ทำในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะทำขายเอง แต่จะทำเป็นตัวอย่างขึ้นมา ทำให้เขาเห็นว่าทำยังไงถึงสวย ถึงสำเร็จ ถึงจะไปเมืองนอกเมืองนาได้ หรือจะเอาเป็นของขวัญให้ใครจริงๆ” ต๋อย “คราวนี้ทำขึ้นมาแล้วเราจะไปโปรโมทที่ไหนอ่ะ ก็เลยต้องจัดงาน “งาน ครัวคุณรักษ์ขนมไทย” ก็เลยเกิดขึ้น ก็เลยได้สองคนนี้ช่วย(ลูกชายและลูกสาว) แพ็คเกจจิ้งพวกนี้เขาเป็นคนทำทั้งหมด” ต๋อย “ในด้านการตลอด เรามองเรื่องเว็บไซต์ เรื่องแอปพลิเคชั่น ช่องทางอะไรต่างๆ แต่วัตถุประสงค์ที่จะต้องทำรายการทีวี ต้องทำอย่างงี้เพื่อสังคมก็ทำไป แอปพลิเคชั่นตอนนี้มีร่วม 5 แสนคน โตมาก โดยทุกร้านที่เอามาลงในแอปฯ เขาไม่ได้เสียตังค์นะครับ ทำฟรีหมด ถามว่าเราทำทำไม แรกสุดสนองความต้องการส่วนตัว แต่พอทำไปๆ มันโตได้ขนาดนี้ต่อไปมันเป็นธุรกิจแน่นอน” ต๋อย “เราจะทำแบบนี้นะ ที่เราจะทำเราไม่ได้เข้าไปทำเอง สมมุติร้าน ก. เขาเก่งมาก เราจะเข้าไปดำเนินธุรกิจ คุณเก่งทำไอนี่ไป แต่คุณไอนี่ไม่เก่ง เอานี่กับเรามั้ย ทำอย่างนี้กับเรามั้ย แล้วแต่ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปเอาสูตรเขามาแล้วทำเอง อันนั้นเป็นสิ่งที่จะไม่มีวันทำ เพราะฉะนั้นผมทำรายการครัวคุณต๋อย วันนี้เข้าปีที่ 4 ปีที่ 5 แล้วเนี่ย ผมจึงไม่เคยมีร้านอาหารของตัวเองเลย ทั้งๆ ที่ผมควรจะมีได้ เพราะผมมีสูตรที่ดีที่สุดอยู่เต็มไปหมด แต่ผมไม่ทำเพราะเหตุผลนั้นแหละครับ ผมไม่ได้จะทำเพราะผมจะทำร้านอาหารเอง ผมอยากทำรายการทีวีครับ อยากทำเว็บไซต์ อยากมีทีวีเป็นของตัวเอง อยากมีช่องฟู้ดแชนแนลเป็นของตัวเอง แตไม่ได้อยากจะทำอาหาร” ต๋อย “ลูกๆ เข้ามาช่วย น่าจะประมาณร่วมๆ ปีแล้ว คือเขาก็มาแตะนู่น แตะนี่เล็กๆ น้อยๆ แต่ทางนี้เขาแตะเต็มร้อยเลย เพราะนี่โปรเจกต์เขาเลย ครัวคุณต๋อยรักษ์ขนมไทย ส่วนแผนธุรกิจ พูดตรงๆ ผมคนทำทีวีจะไปรู้เรื่องอะไร นี่เขาจบด้านนี้โดยตรงมา เขาจบการเงิน นี่ไม่ธรรมดานะครับ เขาจบเกียรตินิยมธรรมศาสตร์ แล้วไปต่อเออร์แบนา-แชมเปญจน์(University of Illinois at Urbana-Champaign : UIUC) มหาวิทยาลัย 1 ใน 10 ของโลกที่รัฐอิลลินอยส์ อเมริกา แล้วได้ 2 ปริญญาโทกลับมา” ต๋อย “ลูกสาวนี่ก็ไม่ใช่กระจอกนะครับ จบมหิดลอินเตอร์ ด้านการโรงแรม แล้วต่อปริญญาโท การโรงแรมที่กรีญอง ปัจจุบันแต่งงานแล้ว และสามีก็ทำโรงแรม” เปรยเล็งขยายธุรกิจเกี่ยวกับอาหารทั้งหมด ต่อไปไม่ใช่แค่อาหารไทย จะไปถึงอาหารต่างประเทศด้วย ซึ่งได้มีการเริ่มต้นไปแล้ว โดยได้เปิดบริษัท บอร์น โปรเจกต์ ขึ้นมาใหม่ให้ลูกชายดูแล ทำโปรเจกต์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับอาหาร, อีเว้นท์
Cr. mthai.com
สำนักข่าววิหคนิวส์