จากกรณีข่าวสหรัฐ ตุรกี ระงับออกวีซ่าให้พลเมืองของอีกฝ่าย ยิ่งเพิ่มรอยร้าวให้กับความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ เมื่อกลางปี ล่าสุดวันที่ 6 พ.ย 60 ที่ผ่านมา สหรัฐระงับยกเลิกคำสั่งงดออกวีซ่าแล้ว
สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอังการาได้ประกาศว่าจะอนุมัติให้ชาวตุรกีบางส่วนสามารถยื่นขอวีซ่าได้ดังเดิม หลังจากที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ชาวสหรัฐอเมริกาที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจที่นั่น
การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ บีนาลี ยึลดือรึม นายกรัฐมนตรีของตุรกีจะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา อันเป็นสัญญาณสื่อถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีว่าได้รับการปรับปรุงชั่วคราว และจะมีการอนุมัติให้สามารถยื่นขอวีซ่าระยะเวลาเกือบ 1 เดือนได้
ข่าวการอนุมติให้บริการวีซ่าบางส่วนที่สื่อท้องถิ่นรายงานออกไป ก็ช่วยให้ค่าเงินลีร่าของตุรกีเพิ่มขึ้นเป็น 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 3.8356 ลีร่า จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 3.8708 ลีร่า
การระงับการให้บริการวีซ่าระหว่างตุรกี – สหรัฐอเมริกาได้เริ่มขึ้นในวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา เมื่อสถานทูตของสหรัฐอเมริกาในอังการาได้ประกาศระงับการให้บริการวีซ่าสำหรับผู้ลี้ภัยสัญชาติตุรกี หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาในสถานกงสุลกรุงอิสตันบูลถูกจับกุมตัว อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงการกระทำแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ของอังการา
WAM.
สำนักข่าววิหคนิวส์