สกู๊ปข่าว » #ถึงคิว นร.-นศ.ฉีดวัคซีน! กันดีกว่าแก้อย่าชะล่าใจ

#ถึงคิว นร.-นศ.ฉีดวัคซีน! กันดีกว่าแก้อย่าชะล่าใจ

20 September 2021
514   0

ถึงคิว นร.-นศ.ฉีดวัคซีน

กันดีกว่าแก้อย่าชะล่าใจ

หลังจากเห็นผูัใหญ่ได้ฉีดวัคซีนไปก่อนหน้านี้แล้ว ท่ามกลางความเห็นขัดแย้งควรฉีดแบบไหนดีกว่ากัน เชื้อตาย หรือ mRNA แต่ในที่สุดสิ่งที่ได้รับรู้รับทราบโดยทั่วไป คือวัคซีนยี่ห้อไหนก็ได้ ขอให้มีฉีด เพราะข้อสำคัญ คือฉีดวัคซีนแล้ว จะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน แมัอาจจะยังติดเชื้อได้แต่จะไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

คราวนี้มาถึงคิวเด็กๆกันบ้าง ทั้งนักเรียน นักศึกษา อาชีวะ ปวช. ปวส. แต่กว่าจะได้เริ่มฉีดชุดแรก ก็ต้องรอถึง 20 ก.ย โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดโครงการ VACC 2 School ฉีดให้กับนักเรียน 132 โรงเรียน จำนวน 108,319 คน ระหว่าง 20 ก.ย.ถึงกลางต.ค.64 เพื่อปัองกันการแพร่ระบาดและรับมือการเปิดเทอมภาค 2 ในเดือนตุลาคม หลังจากนั้น จะสิันสุด ไม่ต่อเวลาโครงการออกไป

ทั้งนี้วัคซีนซิโนฟาร์มที่ใช้ฉีดให้กับเด็กนร.-นศ. ยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย.แต่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์หวังว่า อย.โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งพิจารณาและขึ้นทะเบียนกับอย.โดยเร็ว เนื่องจากในหลายประเทศ อาทิ ชิลี จีน ศรีลังกา ก็ได้ฉีดซิโนฟาร์มให้กับกลุ่มเด็กนักเรียน และมีผลข้างเคียงเพียง 0.2% ซึ่งถือว่าน้อยมาก

เหตที่ไม่ขยายเวลาเพิ่ม เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร มีโครงการจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี จำนวน 4.35 ล้านคน ระหว่างเปิดเรียนเดือนพฤศจิกายน โดยได้เริ่มให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ขณะนี้ รวมทั้งต้องมีเอกสารการยินยอมให้ฉีดวัคซีนจากพ่อแม่ผู้ปกครองประกอบด้วย มีกำหนดจะเริ่มฉีด 4 ต.ค.นี้ โดยไฟเซอร์นั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนอย.ไปแล้วตั้งแต่ 24 มิ.ย.64

ส่วนเด็กนอกระบบการศึกษา ก็สามารถแจังขอรับวัคซีนไฟเซอร์ได้ที่รพ.ใกล้บ้าน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมนี้ โดยทางกรมควบคุมโรค ได้แสดงความมั่นใจว่า เด็กเยาวชนอายุ 12-17 ปีจะได้รับวัคซีนเพียงพอ เนื่องจากถึงช่วงปลายปี 64 ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ถึง 30 ลัานโด๊ส

แม้ในทางปฏิบัติต้องให้นักเรียนและผู้ปกครองต้องยินยอมจึงจะฉีดได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องตระหนักถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีนของลูกหลาน เนื่องจากการติดเชื้อรายวันในประเทศก็ยังอยู่ในอัตราที่เกินกว่าหลักหนึ่งหมื่นคนขึันไป และยังเป็นตัวเลขที่ยังไม่นับรวมยอดเอทีเคติดเชืัอเข้าข่ายอีกวันละนับพันราย (บางวันหลายพัน) สะท้อนให้เห็นโอกาสที่เด็กและเยาวชนสามารถติดเชื้อได้ หากไม่ยอมให้ฉีดวัคซีน

ทางที่ดีที่สุด พ่อแม่ผู้ปกครองควรต้องตระหนักและเรียนรู้เรื่องวัคซีนและผลข้างเคียง ซึ่งมีไม่มาก เช่นกันกับในรายของผู้ใหญ่ ทางภาครัฐก็ต้องไม่ละเลยเช่นกัน