หลังไต่สวนมูลฟ้องคดีหวย 30 ล้าน ที่ไต่สวนปากแรกคือครูปรีชา และมีการไต่ค้านของทนายรตท.จรูญ แต่ว่าไม่มีใบแต่งตั้งทนายความ ทำให้ฝ่ายครูปรีชาร้องศาลให้การไต่สวนค้านกลายเป็นโมฆะ แล้วมีผู้ออกมาปล่อยข่าวว่าเอกสารไลน์ที่ครูปรีชา นำมาเป็นหลักฐานใหม่ต่อศาลนั้น เป็นของปลอมทั้งที่เอกสารเพียงไม่ชัดตรงวันที่ และต่อมาได้ปริินส์ใหม่ส่งต่อศาลในทันที
ทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความของครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า คดีหวย 30 ล้านศาลท่านวางข้อกำหนดละเมิดอำนาจศาลไว้แล้ว ผมเคารพคำสั่งศาล วันนี้จึงมาคุยข้อกฎหมายว่า ความผิดฐาน”ปลอมเอกสาร” ตาม ป.อ.ม.264 มี”พยายาม”หรือไม่ ก็ขอตอบว่า”ไม่มี”
เพราะ มาตราดังกล่าวไม่ได้อาศัย”ผลของการกระทำ”เป็นความผิดสำเร็จ แต่ อาศัย”ลักษณะของการกระทำ” ในข้อความที่ว่า “โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย” ถ้าต้องอาศัยผลกฎหมายต้องร่างว่า”จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย” ดังนั้น ถ้าไม่น่าจะเกิดความเสียหายจึงเป็นเรื่อง”ขาดองค์ประกอบความผิด” ไม่ใช่ ลงมือกระทำผิดแต่การกระทำไม่บรรลุผลตาม ม.80 เพราะมาตรานี้ไม่ได้อาศัย”ผลของการกระทำ” (เครดิตอาจารย์พงษ์)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไต่สวนมูลฟ้องนั้น เป็นกระบวนการพิจารณาระหว่างศาลกับโจร์ท เพื่อทำการพิจารณาว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่ จำเลยมีหน้าที่เพียงแต่งทนายมาซักค้าน เอกสารจะจริงหรือเท็จอยู่ที่ศาลเป็นผู้พิจารณา ในคดีนี้จะมีการไต่สวนอีก 2 ปากในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 โดยจะมีแม่ค้าขึ้นให้ปากคำ 2 ปาก คาดว่าจะไต่สวนที่มาของต้นขั้วหวยตั้งแต่สนามบินน้ำ จนถึงกาญจนบุรี รวมทั้ง ภาพถ่ายไปยืนยันการซื้อขายหวย 30 ล้าน ซึ่งในคดีแพ่งไต่สวนไปแล้ว ศาลให้การคุมครอง จนศาลมีการสั่งอายัดทรัพย์เงินที่เหลือ 24 ล้านเศษไว้
ส่วนคลิปคนเก็บหวยตก และพยานเห็นการเก็บหวยตก รวมทั้งพยานเห็นการซื้อขายนั้น มีกว่า 10 ปาก พยานเป็นทั้ง ครู แม่ค้า ข้าราชการ อดีตนายทหารการข่าว จนท.ค่ายมือถือ ฯลฯ จะไปขึ้นศาลหลังไต่สวนมีมูล หากศาลชี้มีมูลจะส่งผลให้ รตท.จรูญ วิมูล ตกเป็นจำเลยในคดีรับของโจร และยักยอกทรัพย์ทันที ต้องเข้ามามอบตัว เพื่อประกันตัวต่อศาล ตามขั้นตอนกระบวนพิจารณา
ด้านคดีที่ครูปรีชา ได้แจ้งความขอหายที่กาญจนบุรี ต่อมาตร.กาญได้แจ้งข้อหาทางอาญาต่อ รตท.จรูญ วิมูล ต่อมาคดีได้ส่งต่อไปยังที่ตำรวจกองปราบ ตร.กองปราบสั่งไม่ฟ้อง แต่อัยการสั่งสอบปากคำเพิ่มเติมนั้น หากศาลชี้มีมูลคดีที่กาญจนบุรี คดีนี้อัยการจะสำนวนคดีส่งต่อไปยังศาลกาญจนบุรีทันที เพราะเป็นคดีเดียวกัน
ส่วนคดีที่ รตท.จรูญ ได้แจ้งความว่าครูปรีชาแจ้งความเท็จ และผู้การสุทธิ อดีตผู้บังคับการตำรวจกาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่กองปราบปรามนั้น อัยการสั่งให้ส่งเรื่องไปยังปปช. เพราะเป็นคดีความผิดของเจ้าพนักงาน ตำรวจไม่มีอำนาจในการสอบสวนจับกุม เว้นแต่ปปช.จะมอบให้ตร.ดำเนินการในภายหลัง
ต่อมาปปช.ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินการต่อ ตามขั้นตอนตร.จะต้องส่งอัยการ ภาค 7 พิจารณา แต่ในคดีเดียวกันก็มีการฟ้องร้องต่อศาลกาญจนบุรีแล้ว และศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี จนกว่าคดีหลักจะแล้วเสร็จ และครูปรีชา ได้ฟ้องร้อง รตท.จรูญ และทนายษิทธา ในข้อหาแจ้งความเท็จ ต่อศาลกาญจนบุรี เช่นกัน โดยศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ
สำนักข่าววิหคนิวส์