ข่าวประจำวัน » #ทรัมป์คลั่งขู่เกาหลีเหนือว่า “พวกแกอยู่ไม่นานแน่

#ทรัมป์คลั่งขู่เกาหลีเหนือว่า “พวกแกอยู่ไม่นานแน่

24 September 2017
970   0

ทรัมป์คลั่งขู่เกาหลีเหนือว่า “พวกแกอยู่ไม่นานแน่!” หลัง กต.เกาหลีเหนือพูดที่ยูเอ็นว่า “ทรัมป์นั่นแหละที่กำลังฆ่าตัวตาย จนกว่าจะมีความยุติธรรมสากลที่แท้จริง กองทัพต้องถูกจัดการด้วยกองทัพ อาวุธนิวเคลียร์ของจอมทรราชก็ต้องถูกจัดการด้วยค้อนนิวเคลียร์แห่งความยุติธรรม”


วันที่ 23 ก.ย.60 ทรัมป์โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ของตนเองว่า “เพิ่งจะได้ยินรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือพูดที่ยูเอ็น หากเข้ายังสะท้อนความคิดของมนุษย์จรวดตัวจิ๋วอยู่อีก พวกเขาจะอยู่ไม่นานแน่!” (Just heard Foreign Minister of North Korea speak at U.N. If he echoes thoughts of Little Rocket Man, they won’t be around much longer!)

[แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า “พวกแกตายแน่!” เป็นการรับฟังความเห็นต่างตามระบอบประชาธิปไตยแบบอเมริกันครับท่าน – ผู้แปล]
1.) เมื่อวานนี้นั่งฟังท่่านริ ยอง-โฮ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือ กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสัชชาใหญ่สหประชาชาติ เป็นสุนทรพจน์ที่ยอดเยี่ยมสมเหตุสมผลและน่าฟัง (/น่าอ่าน) อีกฉบับหนึ่ง เขาให้เหตุผลว่าทำไมเกาหลีเหนือถึงต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เว็บไซต์ของยูเอ็นลงฉบับเต็มของถ้อยแถลงนี้เอาไว้ด้วย (เป็นไฟล์ PDF ยาว 8 หน้ากระดาษ A4) แปลไม่ไหวครับ ขอคัดเลือกเฉพาะบางส่วนมาให้อ่านดังต่อไปนี้นะครับ….

ท่านประธานครับ,
ก่อนที่กระผมจะเข้าสู่ประเด็นหลักในการดีเบทของกระผม กระผมรู้สึกถูกบังคับให้ต้องแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับถ้อยแถลงที่เปล่งออกมาเมื่อวัน 4 วันก่อนนี้ โดยบางคนที่เรียกตัวเองว่า “ประธานาธิบดีสหรัฐ” ซึ่งได้ทำให้เวทียูเอ็นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ต้องมัวหมอง
เนื่องจากทรัมป์ได้ใช้ถ้อยคำที่สบประมาทและเป็นอันตราย ยั่วยุศักดิ์ศรีอันสูงสุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ที่เวทีแห่งนี้ กระผมคิดว่ามันเป็นการยุติธรรมสำหรับกระผมที่จะทำการตอบโต้ด้วยน้ำเสียงที่สมน้ำสมเนื้อกันนะครับ

ในช่วง 8 เดือนในการครองอำนาจ เขาได้เปลี่ยนให้ทำเนียบขาวกลายเป็นตลาดนัดเสียงดัง เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสียงกระทบกันของการดีดลูกคิด และคราวนี้เขาก็พยายามที่จะทำให้เวทียูเอ็นกลายเป็นรังของแก๊งนักเลงหัวไม้ ที่ซึ่งเงินตราได้รับการเคารพและนองเลือดเป็นคำสั่งประจำวัน
ความจริงที่น่าขันก็คือบุคคลอย่างนายทรัมป์ คนที่วิกลทางจิต (a mentally deranged person) เต็มไปด้วยอาการโรคจิตบ้าอำนาจ (megalomania) และเป็นพวกหลงตัวเอง (complacency) คนที่กำลังถูกลงโทษสั่งสอนแม้กระทั่งโดยประชาชนชาวอเมริกันเอง ในฐานะ “ผู้บัญชาการแห่งความเศร้าโศก” (Commander in Grief) “ราชันจอมโกหก” (Lyin King) “ประธานาธิบดีปีศาจ” (President Evil) ที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ และความจริงที่อันตรายก็คือ นักพนันแก่ๆที่กำลังใช้ภัยคุกคามต่างๆ การฉ้อฉล และแผนการอื่นๆทั้งหมดเพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินซึ่งถือปุ่นกดอาวุธนิวเคลียร์ เหล่านี้คือสิ่งที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศในปัจจุบันนี้
เนื่องจากเขาขาดความรู้พื้นฐานและความรู้สึกนึกคิดที่ถูกต้อง เขาจึงได้พยายามที่จะดูถูกศักดิ์ศรีอันสูงสุดของประเทศของผม โดยการบอกว่าเป็นจรวด อย่างไรก็ตาม ด้วยการกระทำเช่นนั้น เขาได้กระทำความผิดพลาดที่ไม่อาจจะแก้ไขได้ในการที่จรวดของพวกเราจะเดินทางไปเยือนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐทั่วประเทศ ยิ่งต้องเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
นายทรัมป์นั่นแหละที่ปฏิบัติภารกิจฆ่าตัวตาย ไม่ใช่คนอื่นหรอกครับ (None other than Trump himself is on a suicide mission.)
ในกรณีที่เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ในสหรัฐ ก็เป็นเพราะว่าการโจมตีแบบฆ่าตัวตายนี่แหละ นายทรัมป์จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด (In case innocent lives of the U.S. are lost because of this suicide attack. Trump will be held totally responsible.)
2.) สาระสำคัญของสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีก็คือ การเผชิญหน้ากันระหว่าง DPRK กับ U.S. โดยที่ฝ่ายแรกได้พยายามที่จะปกป้องศักดิ์ศรีและอธิปไตยของประเทศชาติ ต่อนโยบายที่เป็นศัตรูและการคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากฝ่ายหลัง
สหรัฐเป็นประเทศแรกที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา และก็เป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ใช้มันจริงๆ สังหารหมู่พลเรือนผู้บริสุทธิ์หลายแสนคนมาแล้ว
ก็สหรัฐนั่นแหละที่ข่มขู่คุกคามว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อเกาหลีเหนือระหว่างสงครามเกาหลี ในช่วงปี 1950s และก็ได้นำอาวุธนิวเคลียร์เข้าไปไว้ในคาบสมุทรเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกหลังสงคราม
สหรัฐได้เริ่มทำการซ้อมรบขนาดใหญ่ต่อ DPRK ในช่วงสงครามเย็น (Cold War period) และก็ได้เพิ่มทั้งขนาดและลักษณะที่กร้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆหลังสงครามเย็น จัดฉากซ้อมรบปีละหลายครั้ง ด้วยการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ด้านยุทธศาสตร์นิวเคลียร์จำนวนมาก
จะมีภัยคุกคามอะไรอื่นที่ร้ายแรงไปกว่าการแสดงความคิดเห็นที่รุนแรงเช่น การโปรย “เพลิงพิโรธ” (Fire and Fury) “การทำลายล้างให้สิ้นซาก” (total destruction) ที่ออกมาจากอำนาจสุงสุดของมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก?
เหตุผลที่แท้จริงที่ DPRK ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ก็เนื่องมาจากสหรัฐเองนั่นแหละ และ (DPRK) ก็ได้เสริมสร้างและพัฒนากองทัพนิวเคลียร์ของตนเองให้มีความเข้มแข็งจนถึงระดับปัจจุบันเพื่อที่จะรับมือกับสหรัฐนั่นเอง
นโยบายที่เป็นศัตรูและการคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากสหรัฐได้มีมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 70 กว่าปีแล้ว และสิ่งเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีจนมาถึงจุด (ที่เรียกว่า) คาบลูกคาบดอก (/สุ่มเสี่ยง/หมิ่นเหม่/ล่อแหลม) แต่ในสหประชาชาติเอง มติต่างๆที่ไม่มีความยุติธรรม ซึ่งเป็นความยุติธรรมแบบไม่ชอบธรรม ก็คือความอยุติธรรม ที่ถูกสุ่มนำมาใช้อันเนื่องมาจากความจองหองอวดเบ่งของสหรัฐ
(But in the United Nations, unjustifiable resolutions which illegalize justice as injustice are randomly adopted due to the high-handedness of the U.S.)
ท่านผู้นำสูงสุดที่เคารพคิม จอง-อึน ประธานคณะกรรมาธิการกิจการรัฐแห่ง DPRK ได้กล่าวเอาไว้ว่า: ความยุติธรรมที่เป็นสากลจะไม่บรรลุได้ตัวยตัวมันเอง จะบรรลุได้ก็ต่อเมื่อประเทศเอกราชต่างๆที่ต่อต้านระบอบจักรวรรดิมีความเขัมแข็งมากพอเท่านั้น
ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมีความยุติธรรมสากลที่แท้จริง หลักปรัชญาที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียวก็คือ “กองทัพจะต้องถูกจัดการด้วยกองทัพ อาวุธนิวเคลียร์ของจอมทรราชจะต้องถูกจัดการด้วยค้อนนิวเคลียร์แห่งความยุติธรรม”
การครอบครองเครื่องยับยั้งอาวุธนิวเคลียร์โดย DPRK เป็นมาตรการป้องกันตนเองที่ชอบธรรม (a righteous self-defensive measure) ซึ่งถูกยกให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ตามหลักการนี้
เมื่อเร็วๆนี้ DPRK ได้ประสบความสำเร็จในการทดลอง H-bomb สำหรับติดตั้งบน ICBM แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะบรรลุให้ถึงเส้นชัยของการสร้างกองทัพนิวเคลียร์ให้สำเร็จ… การพัฒนากองทัพนิวเคลียร์เป็นไปควบคู่กับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ
เจตนาและวัตถุประสงค์ทั้งหมดของกองทัพนิวเคลียร์ของพวกเราก็คือ “ยับยั้งสงคราม” เพื่อทำให้ภัยคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากสหรัฐยุติให้ได้ และเพื่อป้องกันการรุกรานทางทหารจากสหรัฐ และเป้่าประสงค์อันสูงสุดของพวกเราก็คือ การสร้างสมดุลอำนาจกับสหรัฐให้ได้
เนื่องจากการยับยั้งสงครามเพื่อพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลีและภูมิภาคนี้ได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งอย่างเพียงพอ คราวนี้สหรัฐและเหล่าสาวกของเขาจะต้องคิดสองตลบก่อนที่จะเริ่มการยั่วยุทางทหารต่อ DPRK
เราไม่เคยมีเจตนาใดๆที่จะใช้หรือข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อประเทศอื่นๆที่ไม่เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารกับสหรัฐต่อต้าน DPRK
ป.ล. อีกครั้งหนึ่งเป็นการวิจารณ์ UN โดยเฉพาะ มันส์มาก สมเหตุสมผล เป็นการตบหน้าทั้งสหรัฐและยูเอ็นว่าลำเอียงและสองมาตรฐานอย่างไร เช่นห้ามเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียม แต่ไม่ห้ามประเทศอื่น

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
24/09/2560
———
http://www.un.org/apps/news/story.asp…
https://gadebate.un.org/…/d…/files/gastatements/72/kp_en.pdf
https://twitter.com/realDonaldTru…/status/911789314169823232
https://sputniknews.com/…/201709231057640763-north-korea-t…/
http://www.independent.co.uk/…/donald-trump-north-korea-twe…
http://www.foxnews.com/…/trump-north-korean-leaders-wont-be…
https://www.usatoday.com/…/trump-threatens-littl…/697452001/
https://www.rt.com/usa/404363-trump-north-korea-leadership/



สำนักข่าววิหคนิวส์