“ทรัมป์”เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 6 หมื่นล้านดอลล์ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังสั่งการให้นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เสนอการตั้งข้อจำกัดต่อการลงทุนของจีนในสหรัฐ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีในวันพฤหัสบดี (22มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ
“นี่เป็นมาตรการแรกของอีกหลายมาตรการที่จะตามมา โดยตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐต่อจีน ถือว่ามากที่สุดในบรรดาประเทศใดๆในประวัติศาสตร์โลก” ปธน.ทรัมป์ กล่าว โดยปธน.ทรัมป์เชื่อว่ามาตรการของเขาจะช่วยให้สหรัฐแข็งแกร่ง และมั่งคั่งขึ้น
การออกมาตรการเรียกเก็บภาษีของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ได้ทำการสอบสวนตามมาตรา 301 ต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน
สินค้าของจีนที่ตกเป็นเป้าหมายในการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐ เป็นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีที่จีนมีข้อได้เปรียบเหนือสหรัฐ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะสั่งการให้ยูเอสทีอาร์ เปิดเผยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีภายใน 15 วัน และจะมีช่วงเวลา 30 วันสำหรับการรับฟังความเห็นจากประชาชน ขณะที่ยูเอสทีอาร์ ระบุรายการสินค้าที่จะตกเป็นเป้าหมายแล้ว โดยเป็นสินค้าจำนวน 1,300 รายการ
ปธน.ทรัมป์จะได้รับการบรรยายสรุปอีกครั้งในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าเพื่อพิจารณาการดำเนินมาตรการเพิ่มเติม โดยจะขึ้นอยู่กับผลกระทบของมาตรการในขั้นแรก
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า ปธน.ทรัมป์ ต้องการให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้าลง 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 โดยตัวเลขส่งออกไปยังจีนดิ่งลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%
Cr.bangkokbiznews
สำนักข่าววิหคนิวส์