รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม อ้างแหล่งข่าวที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่และสื่อภาษาเมียนมาว่า เหตุการณ์รุนแรงล่าสุดเกิดที่เมืองปายินในเขตสะกาย ภาคกลางของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมืองนี้อยู่ห่างทางเหนือจากกรุงเนปยีดอราว 300 กิโลเมตร
ชาวเมืองเดปายินคนหนึ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ เนื่องจากกังวลความปลอดภัยของตัวเอง เผยกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า รถบรรทุกทหาร 4 คันมาส่งทหารที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุเมื่อเช้าวันศุกร์ บรรดาเยาวชนของหมู่บ้านที่ร่วมกันก่อตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน พยายามต่อสู้กับทหาร แต่พวกเขามีเพียงอาวุธที่ทำเอง และต้องล่าถอยไปหลังจากทหารยิงอาวุธหนักเข้าใส่ หลังการต่อสู้ยุติลง ชาวบ้านพบศพรวม 25 ศพ
เอเอฟพีก็อ้างคำกล่าวของชาวบ้านหลายคนว่า รถบรรทุกทหารหลายคันเข้ามาในพื้นที่ แล้วเปิดฉากยิงใส่หมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ใกล้ป่า หวังกดดันให้สมาชิกกองกำลังป้องกันประชาชนออกจากป่า “เราได้ยินเสียงปืนใหญ่ 26 ครั้ง” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว และว่า ทหารยิงทุกคนที่เห็นบนถนนและในหมู่บ้าน โดยไม่ได้เล็งใครเป็นเป้าหมายเฉพาะ มีชาวบ้านตายไปด้วยหลายคน
ชาวบ้านรอให้สถานการณ์สงบลงจนถึงวันเสาร์จึงออกจากบ้านไปตรวจสอบ เมื่อพบศพก็นำไปฝัง ชาวบ้านคนนี้บอกว่า พวกเขาพบศพก่อน 9 ศพ แล้วชาวบ้านอีกกลุ่มก็พบอีก 8 ศพในวันเดียวกัน จากนั้นวันอาทิตย์ก็เจอศพเพิ่มอีก 8 ศพ
เว็บไซต์บีบีซีภาษาพม่าและสำนักข่าวท้องถิ่นของเมียนมา รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุทหารบุกสังหารในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นตัวเลขที่ตรงกัน
ด้านกองกำลังป้องกันประชาชนเดปายินโพสต์ทางเฟซบุ๊กว่า จากเหตุทหารบุกเข้ามาปราบปรามในหมู่บ้าน สมาชิกของกลุ่มถูกสังหาร 18 ศพ และบาดเจ็บ 11 คน
รอยเตอร์รายงานว่า โฆษกกองทัพเมียนมาไม่ยอมตอบการสอบถามของผู้สื่อข่าวถึงความรุนแรงล่าสุดในเมืองเดปายิน อย่างไรก็ดีหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมา กระบอกเสียงของทางการเมียนมา รายงานข้อมูลที่ต่างออกไป โดยบอกว่า ทหารขับไล่พวกผู้ก่อการร้ายติดอาวุธและยังพบปืนครก 4 กระบอกและปืนแก๊ป 4 กระบอก รายงานไม่ได้กล่าวถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่หมู่บ้านนี้ แต่ได้กล่าวถึงการโจมตีในสถานที่อื่นที่กองกำลังความมั่นคงโดนโจมตี ทำให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 6 ราย เจ้าหน้าที่กำลังรักษาความมั่นคงในพื้นที่
องค์การสหประชาชาติระบุว่า ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทำให้มีประชาชนพลัดถิ่นที่อยู่มากกว่า 230,000 คน และกองกำลังความมั่นคงเมียนมาสังหารประชาชนไปมากกว่า 880 คน อีกมากกว่า 5,200 คนโดนคุมขัง.