POLITICS: ‘เสรีพิศุทธ์’ อัด ‘บิ๊กแดง’ “อย่าเสือก” ม็อบนักศึกษาชุมนุม ชี้ ไม่ใช่หน้าที่ของทหารอย่ามายุ่งกับการเมือง
พรรคเสรีรวมไทย ได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ที่โรงแรมเดอะรอยัล ริเวอร์ วันนี้ โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เลื่อนมาจากเดือนเมษายน และเมื่อสถานการณ์กลับมาดีขึ้น ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศแล้วจึงสามารถกลับมาประชุมได้ แต่รัฐบาลก็ยังคง พระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินไว้ ทั้งที่ผู้เสียชีวิตก็ไม่มีเพิ่ม คนติดเชื้อก็มาจากต่างประเทศเท่านั้น
ส่วนตัวมองว่า เหตุผลที่ยังคงพระราชกำหนดไว้ ก็เพื่อกระชับอำนาจของตัวเองไว้เพื่อไม่ให้สถานการณ์ในบ้านเมืองเป็นภัยต่อผู้มีอำนาจ ที่ตอนนี้ มีกลุ่มนักศึกษาอึดอัดการทำงานของรัฐบาล ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะสามารถทำได้จะนวมตัวให้มากกว่านี้ก็ได้เพราะทุกคนเป็นเจ้าของประเทศร่วมกันเมื่ออึดอัดจากการบริหารประเทศของผู้มีอำนาจเหตุใดจะแสดงความคิดเห็นไม่ได้ ถึงขั้นขับไล่ก็ยังทำได้ ส่วนที่ผู้บัญชาการทหารบกออกมาแสดงความเห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้มีทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด กับกลุ่มการเมืองพรรคการเมืองนั้น
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “ฝากไปบอกว่าอย่าเสือกอย่ามาเสือกมายุ่งกับการเมือง เพราะหน้าที่ของทหารเป็นรั้วของชาติมีหน้าที่ป้องกันประเทศ ทุกวันนี้มีคนเข้ามาตั้งบ่อนการพนันในประเทศแต่ทหารกลับไม่รู้เรื่อง เสียดินแดงมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ก็เพราะไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี แต่กลับมาเสือกทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง ส่วนตัวอยากให้ ผู้บัญชาการทหารบกรีบๆ เกษียณไป หากตนมีอำนาจคงไล่ออกจากตำแหน่งไปแล้ว เพราะทุกวันนี้เพราะทหารทั้งนั้นที่เข้ามาเสือก เป็นนายกรัฐมนตรีก็ทหารยึดอำนาจเข้ามา ทั้งๆที่ประชาธิปไตยกำลังเดินไปได้ด้วยดีแต่กลับมาล้ม มองว่าที่ประเทศไม่เจริญอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะทหาร
ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงได้สั่งให้มีการจับตา การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงก็ใช้เครื่องมือที่เป็นภาษีของประชาชนมาปกป้องตัวเองทั้งสิ้นเพื่อรักษาอำนาจของตัวเองแต่ไม่ได้ป้องกันประเทศชาติ เห็นได้จากการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ก็ไม่ทำเพื่อประเทศชาติ แต่ทำเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเอง ทั้งนั้น ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรจะต้องไปกับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาเพราะทุกคนมีแต่ความบริสุทธิ์ใจที่จะแสดงออกถึงความห่วงใยในการรักชาติบ้านเมือง คนกลุ่มนี้ไม่มีอาวุธจะไปปราบปรามหรือขับไล่ใครได้มีแต่เสียงพูดแสดงความคิดเท่านั้น
ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวถึง การเลือกตั้งซ่อม จ.สมุทรปราการ ที่กำลังจะมีขึ้น โดยเชื่อว่าจะมีการทุจริตไม่ต่างกับ การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ลำปาง ซึ่งมีการโกงชัดๆ แต่ กกต. ก็ยังรีบรับรองประกาศผลการเลือกตั้ง ถามว่า กกต. ใครตั้งมาก็รู้อยู่แล้ว คนพวกนี้เข้ามารับใช้ผู้มีอำนาจทั้งนั้น ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้อง ทั้งๆที่มีเวลาประกาศผลถึง2 เดือน แต่เลือกตั้งมาได้เดือนเดียวก็ประกาศแล้ว พยานหลักฐานก็ยังไม่ได้รวบรวม ทั้งๆที่ร้องไป4-5 เรื่อง และเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคด้วย แต่แต่เรื่องเดียว กกต. ยังทำไม่เสร็จ แต่กลับมารีบประกาศผล เพราะไปเชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ไปตรวจการเลือกตั้ง แต่กลับรายงานว่าไม่มีการทุจริต การเลือกตั้งบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม โดยไม่ฟังความเห็นของส่วนอื่นๆ ดังนั้นการประกาศรับรองผลดังกล่าวโดยที่ยังตรวจสอบไม่ครบถ้วน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ กกต. ยังสร้างความยุ่งยากในการตรวจสอบ คดีนี้ มีการเชิญ อดีต กกต. สมชัย ที่มีข้อมูลเรื่องนี้ไปให้ถ้อยคำที่ จ.ลำปาง และเชิญตนไปให้ ถ้อยคำที่ กกต. กลางได้ ทั้งๆที่ อาศัยใน กทม. เหมือนกัน แบบนี้ก็ควรดำเนินคดีกับ กกต. ทั้งหมด
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังแสดงความเห็นกรณีที่อัยการและตำรวจไม่สั่งฟ้องในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถชนนายตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี2555 ว่าเรื่องนี้หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามากรรมาธิการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบที่ตนเป็นประธาน ก็สามารถเรียกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงตรวจสอบได้ เพราะตนในฐานะประธานกรรมาธิการ มีอำนาจเรียกสำนวนการสอบสวนมาตรวจสอบได้อยู่แล้ว เช่นเดียวกับคดีนาฬิกาหรูของรองนายกรัฐมนตรีประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ขณะนี้ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งเอกสารรายละเอียดการไต่สวนเรื่องนี้มาให้กรรมาธิการได้ตรวจสอบ รวมทั้งการเรียกให้ อัยการสูงสุดชี้แจง คดีของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีทุจริต พร้อมกับภรรยา น้องสาวและพรรคพวกกว่า 40 คน แต่อัยการยังล่าช้าไม่สั่งฟ้อง
ส่วนกรณี ทายาทกระทิงแดง นั้นคงจะวิจารณ์อะไรมากไม่ได้เพราะยังไม่เห็นสำนวน ดังนั้นหากใครที่คลางแคลงใจเรื่องนี้ ก็สามารถร้องเรียนมาให้กรรมาธิการตรวจสอบได้ หากกรรมาธิการตั้งเรื่องขึ้นมาตรวจสอบเองเพราะจะถูกครหาได้ว่าไปจับผิดการทำงานจะดูไม่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดตำรวจไม่คัดค้านอัยการที่มีคำสั่งไม่ฟ้องเพื่อช่วยลูกน้องของตัวเองในคดีนี้ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่าประเทศไทย ใครมีอำนาจ ใครมีเงิน หลายเรื่องที่เห็นกันอยู่ อำนาจและเงินสามารถปิดปากคนได้หมด อยู่ที่ผู้รับผิดชอบว่าจะมีคุณธรรมเพียงพอหรือไม่ ในการรักษาระเบียบกฎหมาย