เฟซบุ๊ก Sweet Irine ของ น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือพลอย อดีตแกนนำกลุ่มทะลุวัง โพสต์ข้อความระบุว่า “แถลงการณ์ขอแยกทางกับองค์กรและกิจกรรมในชื่อ ทะลุวัง – ThaluWang ชี้แจงว่าพลอยต้องการออกมาเคลื่อนไหวอย่างอิสระตามเจตจำนงเสรีของเรา ยังคงยึดมั่นเคลื่อนไหวต่อเพื่อประชาธิปไตย ยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอในนามของตนเอง ไม่ต้องการสังกัดกลุ่มหรือองค์กรใด
.
และอีกสาเหตุคือเราไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงานของสมาชิกบางคนในกลุ่มทะลุวังที่ยังเหลืออยู่ เราอึดอัดมาก อึดอัดมาโดยตลอด แต่ก็ยังอดทนไว้เพราะไม่ต้องการมีปัญหาแล้วทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน วันนี้เราจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเพื่อส่งเสียงของเรา
.
เราไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเคลื่อนไหวที่ไม่รับฟังความเห็น รวมถึงใช้วิธีชี้นิ้วสั่งคนอื่นๆ ในกลุ่ม และเรายังรู้สึกไม่ปลอดภัยกับการมองข้ามเสียงของเหยื่อเพื่อกลับไปคุยกับผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงทางเพศ นอกจากนี้เรายังเสียความไว้เนื้อเชื่อใจ จากการที่บุคคลเหล่านี้หาพรรคพวกเพื่อโจมตีเราด้วยข่าวลือต่างๆ นานา ซึ่งหลายคนที่กำลังอ่านอยู่น่าจะเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย ตั้งแต่ขโมยของ ยักยอกเงิน คลั่งคุณไสย (เราเป็นแม่มด ทีหลังก็อย่ามาขอให้เปิดไพ่ดูดวงให้แล้วกัน) ทำให้เราเสียหาย และเสียความไว้ใจทั้งจากคนที่เคยรู้จักเราและไม่เคยรู้จักเรา โดยทั้งหมดทั้งมวลมันนำไปสู่ความขัดแย้งภายในกลุ่ม และทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด
.
ที่ผ่านมาเราเจอความรุนแรงยังไงบ้าง เราไม่เคยพูดออกมา ทั้งไม่มีโอกาสได้พูด ไม่รู้จะพูดยังไง พูดไปจะมีคนเชื่อมั้ยว่าเราเป็นผู้ถูกกระทำ จะอธิบายความรุนแรงที่เจอให้คนอื่นฟังยังไง จะถูก gaslighting เหมือนที่ผ่านมามั้ย (gaslighting คือพฤติกรรมของการถูกปั่นหัว ใช้คำเบี่ยงเบนความคิดเพื่อให้เรารู้สึกถูกด้อยค่าและกลายเป็นคนผิดในเรื่องราวนั้น)
.
เราถูกแสวงหาผลประโยชน์จากการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองและความเป็นเยาวชน ชื่อและผลงานของเรากับเพื่อนนำไปขอทุนเป็นค่าที่อยู่และค่าอาหาร ค่าเดินทาง ให้คนที่อ้างว่าจะดูแลเราเมื่อเราออกจากบ้าน แต่ผลปรากฏว่าเงินทุนตรงนั้นไม่ถูกแบ่งอย่างชัดเจนและไม่ไปถึงสมาชิกบางส่วน
.
นอกจากนี้ ”คนใกล้ชิด” ของบุคคลข้างต้นก็ยังมาแสวงหาผลประโยชน์จากเราที่ยังเป็นเยาวชนต่อ เขาขูดรีดผลประโยชน์จากเราผ่านการฉวยเอาเรื่องราวของเราในขณะทำกิจกรรมไปเขียนขอทุนเข้าร่วมโครงการ YSEALI อ้างว่าเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาเราด้านกฎหมาย โดยมีผู้ดูแลของเราในตอนนั้นเห็นดีเห็นงามด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องจริง เขานำเอกสารภาษาอังกฤษมาให้เราเซ็นชื่อ โดยที่ตอนนั้นเราไม่ได้มีทักษะภาษาอังกฤษมากพอที่จะเข้าใจ และเขาอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ว่าคืออะไร แต่ด้วยความเป็นเยาวชน เราไม่รู้ตัวว่ามันคือการขูดรีดผลประโยชน์ จนเพื่อนเราเตือนและจะขอช่วยดูเอกสารเต็มๆ อีกที แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดู และเราก็ไม่ได้รับรู้ความคืบหน้าอีกเลยว่าเขาได้ไปหรือไม่ ไปตอนไหน หรือได้อะไรบ้างจากการขูดรีดและใช้เรื่องราวของเรา
.
แถมเราถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิดของเราที่หยุดเคลื่อนไหว ทำให้ขอทุนไม่ได้
.
คือเราออกมาเคลื่อนไหว เราไม่ต้องการเงินเดือน ไม่ได้อยากทำเป็นอาชีพ เราเลยตัดสินใจทำงาน จึงเริ่มขายสติกเกอร์เพื่อเอาเงินไปต่อยอดไปซื้อไอแพดเพื่อมาทำงานและเรียนต่อยอดไปอีก แต่กลับกลายเป็นว่าเงินที่เราขายของได้กลับถูกเอาไปจนหมด เราขอแค่ไอแพดเครื่องเดียวเอามาวาดรูปขาย เราต้องถูกต่อว่าจนร้องไห้ออกมาถึงจะได้รับอนุญาตให้ซื้อ
.
คุณค่าภายในเราถูกลดทอน ทำให้ตัวเล็ก ทำให้เราคิดว่าตัวเราอ่อนแอ จนทำให้เพื่อนและคนอื่นๆ ลำบาก เราถูกลดทอนตั้งแต่ตัวตน อัตลักษณ์ทางเพศ ความฝันการเป็นนักวาดนักเขียน อุดมการณ์ของแรงงานสร้างสรรค์ไม่เคยถูกยอมรับ เราบอกว่าไม่อยากทำ NFT มันขายฝันและเรามีจุดยืนชัดเจน แต่พอไม่ทำ หาเงินให้ไม่ได้ ก็โดนด่า โดนโจมตีแม้กระทั่งความเชื่อทางจิตวิญญาณที่เรายึดมั่น
.
โดนตีตราว่าเป็นคนโง่ ไม่รู้จักโต ใช้ชีวิตเองไม่ได้ จนเรารู้สึกไม่มีค่า มีชีวิตเพียงเพื่อหาเงินเอามาจุนเจือคนที่อ้างว่าจะคอยดูแลเรา จนกระทั่งมีคนที่สามารถเอาเงินมาให้อดีตคนดูแลของเราคนนี้ได้ เราถึงหลุดออกจากความกดดันและแสวงหาผลประโยชน์เหล่านี้ แม้สุดท้ายเราจะถูกปฏิบัติทิ้งๆ ขว้างๆ ก็ตาม
.
ก็เคยฟีดแบ็กและสะท้อนความรุนแรงที่เขาทำ และที่เขาคนนั้นกำลังเจอ ทั้งจากแฟนของเขา ครอบครัว สังคมนักกิจกรรมที่ทำงาน เราเป็นคนที่ยืนเคียงข้างเสมอตั้งแต่วันที่เขาถูกโจมตี มีปัญหากับคนนั้นคนนี้ แต่สุดท้ายความจริงใจของเราก็เอาชนะอีโก้ของเขาไม่ได้เลย เสียงของเราไม่เคยถูกรับฟังอย่างแท้จริง พูดไปก็เหมือนพูดกับรัฐเผด็จการ โดนด่าและถูก gaslighting ถูกปั่นหัวกลับมา โดนตะโกนด่าใส่เป็นทรอมาอีก เจอจากพ่อแท้ๆ มาแล้วยังต้องมาเจอความรุนแรงซ้ำๆ
.
ทุกวันนี้เราก็ยังเจ็บปวด ทรอมา แต่ก็พยายามยืนขึ้นอยู่ เริ่มกลับมาทำสิ่งที่ชอบได้แล้ว ภูมิใจมากๆ ที่ตอนนั้นเข้มแข็ง ต่อสู้ฟาดฟันจนได้ไอแพดมาวาดรูปและเรียนหนังสือ ได้เขียนนิยายตามที่หวังและได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสียที แม้กระทั่งเมนูก็ยังยินดีที่เราออกสักที
.
ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เราและเพื่อนๆ ตัดสินใจขอออกจากองค์กรทะลุวัง ตอนนี้มีสมาชิกทะลุวังตามที่ได้กล่าวอ้างในพื้นที่สาธารณะเท่านั้น เราและเพื่อนคนอื่นๆ ขอไม่ข้องเกี่ยวในนามของทะลุวังอีกต่อไป
.
แต่เราคงหวาดกลัวประโยคบอกรักและคำว่าครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ไปอีกนาน”
.
ต่อมา เมนู โพสต์ข้อความว่า “เราขอเป็นพยานความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพลอย สิ่งที่พลอยเจอมันรุนแรงมากๆ และเชื่อว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยที่ยังไม่คุ้นเคยว่า “ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้มีแค่ทางร่างกายเสมอไป” แต่มีทั้งความรุนแรงทางด้านจิตใจ ความรุนแรงที่เกิดจากการใช้อำนาจ และความรุนแรงจากการถูกแสวงหาผลประโยชน์จากตัวเยาวชน และที่สำคัญเรื่องนี้ไม่ได้มีแต่พลอยที่เป็นผู้เสียหาย
.
– การนำชื่อและผลงานไปขอทุน แต่เงินทุนนั้นไม่ถูกแบ่งอย่างชัดเจนและไปไม่ถึงหลายๆ คน คือการแสวงหาผลประโยชน์ และใช้อำนาจตัดสินใจเพียงคนเดียว
.
– การมีคนแอบอ้างนำชื่อและผลงานกิจกรรมทางการเมืองของพลอยไปขอทุน Young Southeast Asian Leaders Initiative โดย ณ ขณะนั้นพลอยไม่มีความเข้าใจมากพอและไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนที่ขอทุน คือการแสวงหาผลประโยชน์อย่างชัดเจนจากความเป็นเยาวชน อาศัยความไม่มีทักษะภาษาอังกฤษมากพอเพื่อโน้มน้าวให้เซ็นชื่อเพื่อนำไปขอทุน อ้างตัวเองว่าเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
.
– ถูกแปะป้าย ลดทอนคุณค่าในตัวเองว่าเพราะไม่เคลื่อนไหว ทำให้ขอทุนไม่ได้ อันนี้ยิ่งอึ้งเข้าไปอีก เห็นนักกิจกรรมเยาวชนเป็นเครื่องผลิตเงินเหรอ
.
– เมื่อพลอยขายสติกเกอร์ได้เงินจำนวนหนึ่ง กลับเก็บเงินนั้นไว้ที่คนเดียว พลอยต้องถูกต่อว่าจนร้องไห้เพราะเงินที่พลอยหามาได้เองกลับไม่มีสิทธิ์ใช้ซื้อไอแพดตามที่พลอยต้องการ
.
เราเคารพและภูมิใจกับความกล้าหาญในการยืนหยัดจุดยืนของตัวเองที่ออกมาเล่าเรื่องความรุนแรงที่ตัวเองพบเจอมากๆ โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับคนที่ชอบปั่นหัว โน้มน้าวให้ตั้งคำถามกับตัวเอง แปะป้ายความผิดให้คนอื่นเสมอ ต้องมั่นคงและยืนหยัดอย่างหนักแน่นมากๆ ถึงตระหนักได้ตลอดว่าสิ่งที่ตัวเองเจอนั้นไม่ถูกต้อง
.
สิ่งที่น่าเศร้าคือนี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในกระบวนการประชาธิปไตย เราไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบได้ นี่คือเสียงของนักกิจกรรมเยาวชนที่กำลังออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง ในทุกเรื่องที่พลอยเล่ามีเราและคนอื่นๆ ร่วมเป็นประจักษ์พยานว่านี่คือความจริง
.
เราอยากให้สังคมเข้าใจและตระหนักว่า ในสังคมประชาธิปไตยไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม ไม่ควรมีความรุนแรงเกิดขึ้นกับเยาวชนและทุกคนทั้งนั้น และความรุนแรงไม่ได้มีเพียงแค่ความรุนแรงทางร่างกายเพียงอย่างเดียว ทางด้านจิตใจ ทางด้านใช้อำนาจ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตย
.
เราอยากให้สังคมเป็นพื้นที่ปลอดภัยจริงๆ เราจึงขอออกมายืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกกดขี่
.
อนึ่ง การลาออกของเมนู และพลอย ส่งผลทำให้แกนนำหลักของกลุ่มทะลุวังจะเหลือเพียง น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง กับ น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ ซึ่งทั้งสองคนได้รับการประกันตัวออกมาในคดีมาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา
.
ขณะที่ทวิตเตอร์ @jjookklong3 หรือ เจ๊จุก คลองสาม โพสต์ข้อความระบุว่า “เรื่องที่เจ๊และสลิ่มบอกพวกหนูมาโดยตลอด ว่าคนที่เคลื่อนไหวกับพวกหนู คนที่คอยยุให้พวกหนูออกไปทำกิจกรรม มันก็แค่พวกประชาธิปไตยจอมปลอม หลอกใช้เด็กเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ตอนนี้พวกหนูคงตาสว่างแล้วเนอะ ทั้งนิสัยเผด็จการ โกงตังค์ ละเลยการคุกคามทางเพศ ฯลฯ สารพัดเรื่องจริงๆ” และว่า “เจ๊จุกสะดุดตรงนี้ค่ะ โครงการ YSEALI เป็นของสถานทูตอเมริกา เขาจะรู้ไหมว่าเยาวชนฝ่ายประชาธิปไตยใช้กลโกงแบบนี้เพื่อขอรับทุน
.
สำหรับโครงการ YSEALI หรือ Young Southeast Asian Leaders Initiative เป็นโครงการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ชักชวนเยาวชนชาวไทยอายุระหว่าง 18-35 ปี ลงทะเบียนเป็นสมาชิกและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เพื่อสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาคและพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำในหมู่เยาวชนอาเซียน โดยสมาชิกโครงการ YSEALI จะมีสิทธิ์สมัครชิงทุนสนับสนุนกิจกรรม YSEALI Seeds for the Future ก่อตั้งโดยประธานาธิบดี บารัค โอบามา เมื่อปี 2556
——————————-