21 พ.ค.2565 – ที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 8 จ.ศรีสะเกษ ที่บ้านพักของนายปวีณ แซ่จึง โดยมีนางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.ราษีไศล เข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นวันดีที่ตน และคณะ ได้มาที่ อ.ราษีไศล มาบ้านของผู้แทนพี่น้องชาวราษีไศล และเปิดศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 8 ซึ่งเราไม่เคยคาดฝันว่าจะเกิดขึ้น วันนี้นายปวีณ และนางผ่องศรี ต้อนรับเราอย่างดี ทำฝันของเราเป็นจริงนายปวีณให้ความเชื่อมั่นในพรรคภูมิใจไทยโดยตัดสินใจมาร่วมงานการเมืองกับพรรคตั้งแต่ 1 ปีที่ผ่านมา และถ้าจะส่งผู้สมัครในเขตนี้ถ้าไม่ใช่นายปวีณ ก็จะเป็นนางผ่องศรี ก็จะดีที่สุด
“อย่าเรียกนางผ่องศรี อย่าเรียกนายปวีณ และอย่าเรียกผมว่างูเห่า เพราะเรื่องชาวนากับงูเห่าเป็นการพูดถึงเรื่องผู้มีพระคุณที่เคยชุบเลี้ยงงูเห่าให้รอดพ้นจากการบาดเจ็บ แต่แล้วก็ไปกัดชาวนาซึ่งเป็นผู้มีพระคุณ แต่ผู้มีพระคุณของพรรคภูมิใจไทย ผู้มีพระคุณของนายปวีณ ผู้มีพระคุณของนางผ่องศรี คือชาวราษีไศล ฉะนั้น เราจึงไม่ใช่งูเห่า แต่เราเป็นผู้แทนราษฎรของประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พวกเราไม่เคยเลือกเพราะพวกเราคือคนไทย นี้คือสิ่งที่พรรคภูมิใจทำ จึงขอทำความเข้าใจว่าผู้มีพระคุณของเราคือประชาชนที่อยู่ที่นี้ทั้งหมด ที่ต้องตอบแทนคือประเทศไทย” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า พวกเราภูมิใจไทยเป็นผู้แทนของคนไทยทุกคนนี่คือภูมิใจไทย เราเห็นว่า จ.ศรีสะเกษเป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญยิ่ง เราตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะได้ผู้แทนที่ จ.ศรีสะเกษ ให้มีจำนวนมาก เพื่อที่เราจะได้พัฒนา จ.ศรีสะเกษ และพัฒนาประเทศ ไปพร้อมกัน จ.ศรีสะเกษหลังจากนี้ไปจะต้องมีแต่ความเป็นปึกแผ่นเจริญรุ่งเรืองพรรคภูมิใจไทยทำเรื่องเกษตรกรรม การศึกษา การสัญจรไปมา และการสาธารณสุขวันนี้เราพร้อมทั้งหมดแล้ว พรรคภูมิใจไทยขอให้ความเชื่อมั่นว่าพร้อมรับใช้พี่น้องชาวศรีสะเกษทุกคน ขอโอกาสให้พวกเราได้ทำให้ท่านตามสโลแกน “พูดแล้วทำ”
ขณะที่ นายปวีณ กล่าวว่า 20 ปีอยู่กับนายทักษิณ 20 ปีได้ผูกเสี่ยว 20 ปีได้สรุปบทเรียน ถือว่าใช้เวลาพิสูจน์นานเกินไป แต่สิ่งที่ตอบแทนไม่มีจากพรรคเพื่อไทย และจะปล่อยให้คนเพื่อไทยด่าภรรยา คือ นางผ่องศรี ต่อไปไม่ได้ ทุกคนมีศักดิ์ศรี ตนได้บอกนายทักษิณว่าถ้าจะย่ำยีภรรยาตนขนาดนี้ขอให้ไล่ออก ที่ผ่านมานางผ่องศรีเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นภูมิใจไทย ยังยกมือให้พรรคเพื่อไทย และไม่มีใครขยันเท่าภรรยาตนนี่คือเรื่องที่เสียอย่างเดียวคือขยันเกินไป
“ผมเกิดที่นี่โตที่นี่เป็นส.ส.ตั้งแต่หลายคนยังไม่ทันเกิด ต่อเนื่องมาในการเมือง 50 ปีอยู่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่สมัยเป็นไทยรักไทย เป็นพลังประชาชน จนเป็นพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยได้อะไร นายทักษิณบอกว่าเป็นเสี่ยวกันคุยกันแค่เรื่องงานลูบหลังกัน แต่ไม่เกิดความรู้สึก มันไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควร ที่ให้นางผ่องศรีลงส.ส. เพราะผมจะเลิกเล่นการเมือง เพื่อไม่ให้เขาใช้ผมเป็นเบ๊ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ที่พูดนี้ไม่ได้ด่าขนาดนางผ่องศรีของบฯ แต่ไม่ได้ ต้องมาขอกับพรรคภูมิใจไทย ผมการันตีการตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องแล้ว กลับไปอยู่กับนายเนวิน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสมือนได้กลับไปอยู่กับพี่น้อง ผมมีความสุข” นายปวีณ กล่าว
นางผ่องศรี กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า ถ้านายปวีณ ลงส.ส.แล้วตนจะอยู่ไหน ก็ยืนยันว่าจะยังอยู่ข้างนายปวีณ เมื่อถึงเวลาหนึ่งนายปวีณตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินของตัวเองใหม่ เราต้องเชื่อมั่นว่าต้องดี คนอายุ 72 ปี เราเคารพการตัดสินใจของเขา ฉะนั้น การตัดสินใจทั้งหมดเพื่อประชาชนทุกเม็ดทุกดอก
“นายปวีณอยู่เพื่อไทยมาเกือบ 20 ปี รักใครรักจริง เอาจริง มุ่งมั่น มั่นคงเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งนายปวีณตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เราก็ต้องเชื่อมั่น เพราะอายุ 72 ปี ก็คิดแล้วคิดอีกกว่าจะตัดสินใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งการตัดสินใจทั้งหมดเพื่อพี่น้องประชาชน ดังนั้น ไม่ใช่งูเห่า เราอยากได้อย่างอื่นมากกว่าเงิน เงินเราพอมีอยู่พอกิน มีพอช่วยประชนพอสมควร” นางผ่องศรีกล่าว
ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ เรามีส.ส. 2 คน คือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และนายอาสพลธ์สรรณ์ไตรภพ แต่ที่ อ.กันทรลักษ์ เรายังไม่มีส.ส. แต่เรามีเพื่อน คือ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และนางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ทั้ง 2 ท่าน ตกลงจะมาช่วยพรรคภูมิใจไทย มาช่วยพัฒนา จ.ศรีสะเกษ และถ้าจะให้เกิดความเป็นเอกภาพจะพัฒนา จ.ศรีสะเกษ ต้องเอาผู้แทนมาให้ได้ทุกเขต
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวบนเวทีเพื่อตอบข้อสงสัยของกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านใน อ.ราศีไศล จ.ศรีสะเกษ ถึงกระแสเรียกร้องของบางฝ่าย ให้มีการยุบกำนันผู้ใหญ่ว่า ตนในฐานะที่เคยเป็นนายกเทศมนตรีมา 8 ปี ยืนยันว่าจะไม่มีการยุบกำนันผู้ใหญ่บ้านแน่นอน อย่าไปเชื่อว่าจะมีการยุบ รวมถึงที่เรียกร้องไปถึงว่าจะให้มีการยุบผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ก็ยืนยันว่าไม่มี เพราะการบริหารจะต้องมีศูนย์กลาง ส่วนภูมิภาค คือมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และส่วนท้องถิ่น มีการแบ่งแยกหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าจะไม่มีการยุบกำนันผู้ใหญ่บ้านแน่นอน กำนันผู้ใหญ่บ้านจะอยู่คู่ฟ้าคู่บ้านแน่นอน