ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยให้ความเห็นต่อทิศทางทางการเมืองของเพื่อไทย ว่ายังขาดหาผู้นำที่เหมาะสมและมีเสน่ห์เพียงพอสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาและครั้้งต่อ ๆ ไป โดยเทียบเคียงกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตผู้นำพรรคอนาคตใหม่ ว่า “มีเสน่ห์และมีความเป็นผู้นำมากกว่าในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว” ระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษ Thai Enquirer
บทสัมภาษณ์ความยาวกว่า 47 นาทีระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้สื่อข่าวถูกเผยแพร่ในวันที่ 6 มกราคม 2563 เป็นภาษาอังกฤษ บทสนทนาไล่เรียงตั้งแต่การตัดสินใจเข้าสู่วงการการเมืองของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) นโยบายต่าง ๆ ระหว่างที่ตนเป็นรัฐบาล มาจนถึงอนาคตของพรรคเพื่อไทย
“คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งมักเลือกคนที่มีเสน่ห์มาเป็นผู้นำเสมอ” ทักษิณยกแนวคิดจากบทความหนึ่งที่ตีพิมพ์ในปี 1998 โดยยอมรับว่าเพื่อไทยยังไม่สามารถหาผู้นำที่เหมาะสมและมีเสน่ห์ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วได้และตนไม่ทราบว่าเพื่อไทยจะหาบุคคลที่มีเสน่ห์และความสามารถนั้นเจอหรือไม่ โดยยืนยันว่าเพื่อไทยต้องปรับตัวทั้งด้านอุดมการณ์และการเลือกเฟ้นตัวผู้นำ
“ธนาธรมีเสน่ห์ความเป็นผู้นำที่มากกว่าในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คนรุ่นใหม่เขาไม่รู้จักประเภทของพรรคการเมืองต่าง ๆ สำหนับพวกเขานี่คือพรรคเข้ามาใหม่ที่มีเสน่ห์ และนั่นคือสิ่งที่คุณธนาธรประสบความสำเร็จในขณะนั้น” อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ในปี 2548 วิเคราะห์ และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะหันมาสนใจเพื่อไทยอย่างแน่นอน
เมื่อกล่าวถึงคนรุ่นใหม่ ตอนหนึ่งระหว่างการสัมภาษณ์ ทักษิณ ระบุว่า ตนมองว่าการชุมนุมของเยาวชนไม่เกี่ยวกับตนในเรื่องที่ตนจะได้กลับบ้านหรือไม่ “ถ้าคุณพยายามที่จะเข้าใจพวกเขา พวกเขาพยายามที่จะเห็นอนาคตของเขาผ่านระบอบประชาธิปไตย พวกเขาอยากจะเห็นประชาธิปไตยในประเทศไทยแต่ประเทศไม่มีประชาธิปไตยมาหลายปีแล้ว เขาไม่อยากให้ทหารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง เขาไม่ต้องการการรับรองรัฐประหารและนั่นคือสิ่งที่ผมสามารถมองเห็นได้ พวกเขายังอายุน้อยอยู่แต่มีความตั้งใจที่ดี ผมว่าถ้าเราพูดคุยกันได้ทุกอย่างมันก็จะจบลง”
นอกจากนี้บทสัมภาษณ์ยังพูดถึงประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างการดำเนินนโยบายของทักษิณ ชินวัตร เช่น เรื่องสงครามยาเสพติด
อดีตนายกฯ ยอมรับว่า “ควรมองเรื่องความบกพร่องในการจัดการนโยบายให้ละเอียดมากกว่านี้” แต่ก็ระบุว่า “ผมคิดว่ามันเป็นการพูดเกินจริงของนักการเมืองและผู้สื่อข่าวฝั่งตรงข้ามของผม” และชี้ว่ามีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบสวนเรื่องนี้โดยคณะรัฐประหารแล้ว และ “ไม่สามารถหาอะไรที่มาเอาผิดผมได้”
ส่วนประเด็นความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ ทักษิณ ยอมรับว่า “ควรใช้วิธีทางการเมืองมากกว่านโยบายที่ได้ดำเนินไปอย่างนั้น” และชี้ว่าในสมัยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีความพยายามประสานรอยราวผ่านนายทวี สอดส่อง “แต่บางครั้งทหารบกเขาก็ไม่เห็นด้วย”