เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มี.ค.2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือโทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถามผ่านCareTalk x Care ClubHouseเลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? กรณีให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ฐานะบุตรสาวอย่างไรในสนามการเมืองว่า น้องอิ๊งค์เห็นผมกับการเมืองตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนที่ผมตั้งไทยรักไทยเขาอายุ 12 ขวบ เขาไปกับผมตลอด ไปหาเสียงด้วย เขาจึงเห็นมาตลอด เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่เป็นคนพูดตรงๆ และศึกษาเยอะ หาข้อมูลได้เร็วกว่าสมัยผมเยอะ เขามีวิจารณญาณมากพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ตอนนี้สิ่งที่ผมห่วงเขาก็คือตอนนี้ท้องแก่แล้ว ก็ห่วงเรื่องสุขภาพช่วงนี้ก็ไม่ให้เดินทางไกลๆ ให้เดินทางใกล้ๆ ได้1-2 ชั่วโมง ดีที่เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.เขาคลอดก่อนหลายวันอยู่ ก็ค่อยยังชั่ว ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม เขารู้หมด อยู่ในหัวหมดว่าโดนอะไรช่วงไหน เบื้องลึกเบื้องหลังผมพูดกับเขาทุกเรื่อง
นายทักษิณ ตอบคำถามถึงบทเรียนในการเลือกตั้งปี 54 ที่จะแนะนำให้พรรคพท.ไม่เดินซ้ำรอยเดิม เพื่อไม่ให้จบเหมือนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า คุณยิ่งลักษณ์กับผมดีเอ็นเอใกล้เคียงกัน ส่วนของลูกสาวเขาได้ดีเอ็นเอแม่กับดีเอ็นเอผม ก็จะต่างจากคุณยิ่งลักษณ์ ซึ่งเขาจะชัดเจน เด็ดขาดและมีความเป็นคนรุ่นใหม่กว่า เด็กรุ่นใหม่จะตรงไปตรงมาโผงผาง ไม่มีพูดอ้อมค้อมและโกหกไม่เป็น ส่วนเรื่องแนวนโยบายที่ใช้ต่อเนื่องกันนั้น ตอนคุณยิ่งลักษณ์คือทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่วันนี้ดีเอ็นเอทักษิณคิด ดีเอ็นเอทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็ไปทำ
นายทักษิณ ตอบคำถามกรณีถ้าเพื่อไทยได้ 310 เสียงและได้ตั้งรัฐบาล ในมุมมองของพ่อจะให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ของประเทศได้หรือไม่ว่า ถ้าถามว่าเขาเป็นได้ไหม เขาเป็นได้ดีทีเดียว แต่อย่างว่าเขาบรรลุนิติภาวะแล้วจะไปชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องเลือกเองว่าจะเป็นหรือไม่เป็น ต้องให้ตัดสินใจเอง ผมครอบครองได้แต่ครอบงำเขาไม่ได้ เพราะเขาโตแล้ว เขาคิดเองได้ แล้วแต่เขา ที่เขาทุ่มเททำงานกับพรรคมาขนาดนี้ พรรคก็เกรตฟูลกับเขามาก ผมในฐานะก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาก็เกรตฟูลที่เขาทุ่มเทและทำได้ดีทีเดียว ทั้งๆ ที่ท้องแก่ก็ยังอุตส่าห์ขยันหมั่นเพียร เขามีคาแรกเตอร์ซึ่งบางอย่างผมไม่มี เพราะเขาได้ดีเอ็นเอแม่มาผสมด้วย เขาทำได้ดีกว่าผม
“พรรคมีแคนดิเดต 3 คนซึ่งคนที่สามคิดว่าวันที่ 5 เม.ย.ก็คงจะเปิดตัวแล้ว” นายทักษิณ ระบุ
นายทักษิณ ตอบคำถามกรณี นายเศรษฐา ทวีสินประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เหมาะจะเป็นนายกฯหรือไม่ว่า คุณเศรษฐาเหมือนตอนผมเข้าสู่การเมืองใหม่ๆ เป็นนักธุรกิจ ทำงานมีเป้าหมายชัดเจน ตรง ขวานผ่าซากเหมือนตอนผมเข้าพรรคพลังธรรม ผมเชื่อว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยทั้งสามคน ใครก็เป็นได้ อิ๊งค์เล่าให้ผมฟังว่าเขามีกติกาว่าใครเป็นนายกฯ อีกสองคนต้องช่วย ซึ่งทั้งสามคนมีคาแร็กเตอร์และความชำนาญคนละแบบ
อิ๊งค์จะชำนาญเรื่องการเมืองระดับรากหญ้า เพราะเขาอยู่กับผมมานาน เขาไปพบปะผู้คนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เค้าจะมีความเห็นอกเห็นใจสูง รวมถึงเรื่องคนรุ่นใหม่และเทคโนโลยี
ส่วนคุณเศรษฐาถนัดเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องธุรกิจและเรื่องการหารายได้
ส่วนอีกคนหนึ่งยังไม่บอกว่าเป็นใคร แต่จะเลือกมาคนละคาแร็กเตอร์ ก็จะไม่ใช่นักธุรกิจเหมือนคุณเศรษฐา แล้วเวลาทำงานใครเป็นนายกฯ อีกสองคนต้องช่วยกันคิดและให้แนวทาง เลยไม่รู้ว่าใครจะได้เป็น
“ปกติทุกคนจะแย่งกัน แต่ครั้งนี้ต่างคนต่างจะเสียสละให้กัน ผมถามน้องอิ๊งค์ก็บอกว่าให้พี่นิดเป็นเถอะ ส่วนนิดก็บอกว่าน้องอิ๊งค์เหมาะมาก ต่างคนต่างบอกใครก็ได้เราช่วยกัน ก็เลยยังไม่รู้ สงสัยต้องให้พรรคเพื่อไทยจับฉลากเอา มันอยู่ที่ว่าใครจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองในช่วงนี้ได้ดีกว่ากัน ส่วนตัวมองว่าคนที่จะเป็นนายกฯ นั้น 1.ต้องเป็นคนรักประชาชน เอาทุกข์ของประชาชนมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา 2.ต้องรู้เท่าทันโลก รู้เท่าทันเทคโนโลยี เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ และ 3.ต้องเข้าใจเศรษฐกิจเพราะมันเป็นแกนสำคัญที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขได้” นายทักษิณ ระบุ
นายทักษิณ ตอบคำถามกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทินและนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่จะย้ายมาอยู่กับพรรคพท.ได้มองถึงเรื่องอุดมการณ์หรือไม่ว่า การเมืองเมื่อก่อนแรง ทุกคนต้องเอาตัวรอด ถ้าเอาตัวรอดแล้วไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเพื่อไทยและพร้อมที่จะกลับมา เพื่อไทยก็ยินดีรับก็ไม่มีปัญหา เพราะตอนนั้นใครที่เคยเป็นพวกผม ทำงานกับผมก็โดนบี้จนตาย แล้วทหารชุดนี้ควบคุมองค์กรอิสระหมด เขาก็ต้องเอาตัวรอดทุกคนเป็นเรื่องธรรมดา