เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาศาลฎีกาได้ตัดสินยกคำร้องกรณีการจ่ายค่าเสียหายของกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวน 522 ล้านบาท โดยสาเหตุที่แกนนำทุกคนเข้าใจคือทนายความลืมยื่นอุทธรณ์ตามกรอบเวลา 30 วัน ทำให้ศาลฎีกาต้องยกคำร้อง
อันที่จริงแล้วตามหลักปฏิบัติจำเลยจะต้องรับทราบการเคลื่อนไหว ข้อกำหนดกฎเกรณ์ในสิ่งเหล่านี้ เพราะเวลาติดคุก ทนายไม่ได้ติดคุกด้วย จึงไม่ควรไปโทษทนายความ ที่ทั้งหมดเป็นอาสามัครที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามาทำการช่วยเหลือ
เงินจำนวน 522 ล้านบาท ถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก แต่จากเจตนารมณ์ที่ดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ยึดประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ ได้ทำคุณประโยชน์มากมาก หากไม่มีพวกเขาเหล่านั้นในระดับแกนนำทั้ง 13 คน คงไม่มีประเทศไทยในวันนี้
ประชาชนคนไทยที่รักในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่เคยร่วมชุมนุมกันพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จึงควรแสดงน้ำจิตน้ำใจ ด้วยการสนับสนุนลงขันกัน เพื่อให้อุปสรรคที่มาขัดขวาง ผ่านพ้นไปได้ ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้มิใช่เป็นเรื่องใหญ่โต ที่จะทำให้เหล่าแกนนำที่เสียสละทั้งหลาย เสียกำลังใจ
หนทางจากนี้ แกนนำ 13 ท่าน ควรส่งตัวแทน หารือ ท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อขอให้ ท่าน รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณะบดีคณะนวัตกรรมสังคม มาเป็นประธานจัดหากองทุน ช่วยเหลือ เพื่อชดใช้เงินดังกล่าวแก่การท่าอากาศยาน จากบารมีของท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ และจากความเป็นนักวิชาการที่มีคุณภาพระดับประเทศ ที่ทั้งนอกในประเทศ ยอมรับ ของ รศ.สังศิต จะทำให้การจัดกิจกรรม งานวิชาการ ดนตรี พร้อมกับการถ่ายทอดสด เปิดให้มีสายตรงบริจาค ระดมทุนไม่ต่างจากภัยน้ำท่วม ย่อมจะได้รับการอนุญาตจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยให้จัดกิจกรรมนี้
ที่ควรทำอย่างน้อย 3-4 ครั้ง เชื่อว่าก็จะสามารถที่จะได้รับเงินมาเพียงพอในการชำระ ซึ่งแน่นอนการกระทำของคนดีฟ้าดิน พระสยามเทวาธิราช ย่อมเห็นคุณงามความดี จะสนับสนุนนำเงินไปแก้ไขปัญหาจนลุล่วงไปได้ โดยควรเริ่มต้นระดมทุน ตั้งแต่งานวันที่ 7 ตุลาคม 2560 อันเป็นวันครบรอบ การเสียชีวิตของวีระชนพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างสงบ สันติ อหิงสา
ส่วนบุคคลอย่าง คุณชวน หลีกภัย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณหญิงกัลยา โสภณพาณิชย์ ควรเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการระดมทุนสนับสนุน ช่วยเหลือ อันเป็นทางหนึ่งในการผสานความปรองดอง เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ด้วยการถ่ายทอดสดทางบลูสกาย และร่วมจัดหาระดมทุน ช่วยเหลือคนดี
สำหรับผู้ที่หลบหนีในต่างประเทศ หากจะคิดถึงการปรองดอง สร้างความสามัคคี ก็ควรแสดงน้ำจิต น้ำใจ จากกาลนี้ ในทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้ทุกฝ่ายหันมาจับมือ สร้างชาติ สู่การปฏิรูปประเทศอย่างสมบูรณ์ในอนาคต เพราะในรัชกาลใหม่ จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น อันเป็นโอกาสสร้างความดี เพื่อถวายต่อในหลวงในรัชกาลเก่าและใหม่ อันเป็นแนวทางการสร้างชาติ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สู่สันติสุข
ดั่ง (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521)
“คนเราจะเอาแต่ได้ ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้”
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
23 กันยายน 2560