ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #ทำจริง! ผลสอบปากคำ 3 เด็กชายพบอนาจารเด็กหญิงป.1 จริง แต่ไม่รุนแรงตามข่าว

#ทำจริง! ผลสอบปากคำ 3 เด็กชายพบอนาจารเด็กหญิงป.1 จริง แต่ไม่รุนแรงตามข่าว

28 May 2018
849   0

ตำรวจเปิดเผยคำสอบสวนกลุ่มเด็กชายถูกกล่าวหาร่วมกันพยายามล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง ป.1 พบมีการอนาจารจริง แต่เป็นการหยอกเล่นกันของเด็ก ไม่ได้มีการกระทำรุนแรงตามที่เป็นข่าว

ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ปกครองเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีกลุ่มเด็กชายชั้น ป.3 และ ป.5 ร่วมกันพยายามล่วงละเมิดทางเพศ เด็กหญิงชั้น ป.1 ริมสระน้ำในหมู่บ้าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุดในวันนี้ (28 พ.ค.) พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการเล่นกันของเด็กซึ่งก็ไม่ได้รุนแรงตามที่เป็นข่าว จากผลการสอบปากคำพบว่ามีเด็กที่เล่นน้ำอยู่ด้วยกันในวันเกิดเหตุทั้งหมด 5 คน แบ่งเป็นเด็กผู้ชาย 4 คน คือ ชั้นอนุบาล 2 , ป.1 , ป.3 , ป.5 และ เด็กหญิงชั้น ป.1 ที่เป็นผู้เสียหาย

เหตุที่เกิดเหตุได้มีการถอดเสื้อผ้าเล่นน้ำกันตามประสาเด็ก จากนั้นมี ด.ช.ชั้น ป.3 ก็พูดในลักษณะหยอกล้อกันเล่นว่าจะให้เงิน 35 บาท หากเด็กหญิง ป.1 และเด็กชาย อนุบาล 2 ซึ่งก็เป็นหลานของยายผู้เสียหาย ยอมทำเลียนแบบตามคลิปที่ดูในโทรศัพท์ให้ดู

แต่หลังจากนั้นทั้งสองก็ทำตามจริงๆ โดยที่เด็กชายอีก 3 คนก็ยืนดูเฉยๆ แต่ไม่ได้ร่วมกระทำด้วย ซึ่งในทางกฎหมายคดีนี้ถือเป็นคดีทางอาญา ที่ต้องดำเนินการตามคดีทั่วไป แต่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องการสอบสวนและการพิจารณาคดีความ เพราะผู้กระทำผิดเป็นเด็ก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเด็กทั้งหมด ร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาแล้ว ผลการสอบสวนเด็กทั้งหมดให้การสอดคล้องกันว่าเด็กชายชั้น ป.3 พูดหยอกล้อ ว่าจ้างให้เด็กชายชั้นอนุบาล 2 ซึ่งเป็นหลานของยายผู้เสียหายเอง เป็นผู้กระทำอนาจารเด็กหญิงชั้น ป.1 และมีเด็กชายชั้น ป.5 และ ป.3 อีกคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ส่วนกระแสข่าวเรื่องการข่มขืนหรือพยายามฆ่าเด็กหญิงด้วยกดหัวลงน้ำก่อนหน้านี้ ในทางสอบสวนไม่พบว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมตั้งข้อหาอนาจารกับกลุ่มเด็กชาย ส่วนข้อหาล่วงละเมิด จะต้องรอผลตรวจจากโรงพยาบาลยืนยันอีกครั้งว่ามีการล่วงละเมิดหรือไม่

ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกระสัง ย้ำว่าคดีนี้เป็นคดีที่มีผู้กระทำและผู้ถูกกระทำเป็นเด็กทั้งคู่ แม้จะมีความผิดเกิดขึ้น แต่ทางกฎหมายเด็กจะไม่ต้องรับโทษและศาลจะเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดถึงแนวทางการดูแลและเยียวยาเด็กทั้งหมด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook
สำนักข่าววิหคนิวส์