วันจันทร์ที่ผ่านมา (30 เม.ย.) กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ประกาศว่าจะถอดเครื่องขยายเสียงที่เคยใช้เปิดโฆษณาชวนเชื่อและเพลงเคป็อปใส่เกาหลีเหนือออกจากเขตปลอดทหารบริเวณชายแดนสองเกาหลี (Demilitarized Zone) ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
คำประกาศดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบรรลุข้อตกลงระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. อันนำไปสู่การลงนามในปฏิญญาพันมุนจอมซึ่งระบุไว้ว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะ “ยุติการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ทั้งปวงต่อกันในทุกๆ ขอบเขต”
คิมจองอึนและมุนแจอิน ผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ได้ตกลงกันว่าจะยุติการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ทั้งหมดในพื้นที่ชายแดน เช่น การกระจายเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงและการแจกใบปลิว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป รวมทั้งเปลี่ยนเขตปลอดทหารให้เป็น “เขตสันติภาพ”
ทั้งนี้ เกาหลีใต้เริ่มกระจายเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงตรงชายแดนตั้งแต่ปี 1963 ส่วนเกาหลีเหนือก็เปิดโฆษณาชวนเชื่อของตนเองเป็นการโต้ตอบ ทั้งสองฝ่ายระงับการกระจายเสียงไปเมื่อปี 2015 แต่ด้านเกาหลีใต้กลับมาใช้เครื่องขยายเสียงอีกครั้งเมื่อปี 2016 เพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ดี ก่อนการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-ใต้เพียงไม่กี่วัน เกาหลีใต้ก็ได้ระงับการกระจายเสียงไปเพื่อสร้างบรรยากาศอันดีในการพบปะหารือ
หลังการประชุมครั้งนี้ คิมจองอึนและมุนแจอินได้ประกาศอย่างชัดแจ้งแล้วว่า “จะไม่มีสงครามเหนือคาบสมุทรเกาหลีอีก” พร้อมสัญญาว่าจะเดินหน้าไปสู่สนธิสัญญาสันติภาพเพื่อยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการภายในปีนี้
ในขณะเดียวกันด้านเกาหลีเหนือก็ตัดสินใจ “ปรับนาฬิกา” ให้เร็วขึ้น 30 นาทีเพื่อกลับมาใช้เขตเวลาเดียวกันกับเกาหลีใต้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้ (5 พ.ค.) เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ใช้คนละเขตเวลากันมาตั้งแต่ปี 2015
สำนักข่าววิหคนิวส์