ทีมชาติไทย นำทัพมาโดย นพพล พลคำ, สุภโชค สารชาติ และ เจนรบ สำเภาดี ลงเป็นตัวหลักในเกมนี้
ด้านญี่ปุ่น ส่งนักเตะอย่าง ยูตะ คามิยะ และ คียวซุเกะ ทางาวะ ลงเป็นหน้าเป้า
ผลปรากฏว่า ทีมชาติญี่ปุ่น เป็นฝ่ายเฉือนชนะ ทีมชาติไทย 1-0 จากการทำประตูของ คียวสุเกะ ทากาวะ ในนาทีที่ 90
ผ่านไป 2 นัดทีมชาติไทย ยังไม่มีคะแนน จมบ๊วยของตาราง และตกรอบเป็นที่แน่นอนแล้ว ทั้งนี้ทีมชาติไทย ยังเหลือโปรแกรมการแข่งขัน อีก 1 นัดในการพบกับ ปาเลสไตน์ ในวันอังคารที่ 16 มกราคม เวลา 15.00 น. ณ สนาม เจียงหยิน สปอร์ต เซนเตอร์
ทั้งนี้ หลังเกมการแข่งขันที่ ทัพช้างศึก U23 ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มของศึกชิงแชมป์เอเชีย หลังพลาดท่าพ่ายต่อญี่ปุ่น U23 ในช่วงท้ายเกม โซรัน ยานโควิช หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวว่า “ผมคิดว่าทุกคนทำได้ดีในเกมนี้ ทุกคนช่วยกันเล่นเกมรับ น่าเสียดายที่เราต้องมาเสียประตูในช่วงท้ายเกม”
“เกมนี้เราพยายามช่วยกันอย่างเต็มที่ และพยายามสร้างโอกาสจากลูกตั้งเตะ แต่เราก็ทำไมได้ การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ชั้นดีของพวกเรา เพราะหลายคนยังเล่นอยู่ในลีกรองในประเทศ ขณะที่บางคนก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม นี่จึงถือเป็นประสบการณ์ชั้นดี”โซรัน กล่าว
โซรัน กล่าว ยังกล่าวอีกว่า “แน่นอนว่าเกมสุดท้ายเราก็ต้องการเก็บแต้มจากปาเลสไตน์ให้ได้ ผมยอมรับว่าเรามีปัญหามากมายจากการถอนตัวของนักเตะตัวหลัก ส่วนเรื่องสภาพอากาศแน่นอนนักเตะหลายคนไม่เคยลงเล่นท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้มาก่อน แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คงเป็นเรื่องเสียประตูในช่วงท้ายเกม และ ต้นเกม”
ด้านฮาจิเมะ โมริยาสุ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไมเกิน 23 ปี ชื่นชมแนวรับไทยที่ป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น แต่โชคดีที่ทีมสามารถเจาะได้ในช่วงท้ายเกม
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบสุดท้าย นัดที่ 3 ของกลุ่ม บี ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงสนามพบ ทีมชาติปาเลสไตน์ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในวันที่ 16 มกราคม 2561 ที่สนามฉางโจว โอลิมปิก สปอร์ต สเตเดียม เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สำนักข่าววิหคนิวส์