ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ทำเนียบรัฐบาลมามีมาตรการทั้งด้านสาธารณสุข การตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการให้เจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านนั้น แต่ล่าสุดปรากฎว่าจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบมีเจ้าหน้าที่มีผลเลือดเป็นบวกจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย พนักงานขับรถของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผลตรวจเมื่อวันที่ 23 เม.ย. หัวหน้าแม่บ้าน ผลตรวจวันที่ 25 เม.ย.และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก กก.4 บก.ส.3 ผลตรวจเมื่อวันที่ 25 เม.ย.
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางผู้บังคับบัญชาได้มีคำสั่งด่วนให้ ผู้อำนวยการสำนักที่รับผิดชอบ สำรวจว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดที่สัมผัสใกล้ชิดสูงกับผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คน หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง และขอให้แยกชื่อผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กับกลุ่มเสี่ยงเพื่อทำการกักตัว โดยขอให้ผู้ที่เสี่ยงสูงกับผู้ที่มีความเสี่ยง กักตัวไว้ก่อน 14 วัน
ด้านนายเสกสกล เปิดเผยว่า คนขับรถของตนได้เข้าทำตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร
และเมื่อพบติดเชื้อได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที ส่วนตนเมื่อทราบได้เข้าทำการตรวจทันทีเช่นกันโดยผลออกเป็นลบไม่พบการติดเชื้อ และได้ทำการตรวจครั้งที่ 2 ที่จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ผลออกมาเป็นลบ แต่ตนได้ทำการกักตัว 14 วัน อยู่ที่บ้านพัก จ.นครราชสีมา แม้ผู้ที่ติดเชื้อไม่ได้มาสัมผัสใกล้ชิดกับตนแต่เพื่อความไม่ประมาทถึงตนจะได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว
นายเสกสกล กล่วว่า ยืนยันว่าช่วงเวลานั้นตนไม่ได้ใกล้ชิดและสัมผัสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ซึ่งเมื่อทราบผลของผู้ติดตาม ตนได้สั่งการให้ผู้ติดตามและผู้ใกล้ชิดของตนทั้งหมดได้ทำการตรวจแลพกักตัวทั้งหมดแล้ว โดยตนได้รายงานเรื่องนี้นายกฯ รับทราบแล้ว
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายสอบสวนโรค ได้ทำการสอบสวนโรคอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีความเป็นห่วงว่าจะมีการแพร่กระจายของเชื้อออกไปอีกโดยเฉพาะในทำเนียบรัฐบาล โดยในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ แม้จะมีการตรวจเช็คอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เพิ่งได้รับวัคซีนเพียงเข็มแรกของแอตราเซเนกาเท่านั้น