ประเด็นเรื่องการมีอยู่ของ‘ขบวนการเพื่อล้มล้างประเทศไทย’นั้น ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่วางแผนหาแนวทางล้มล้างประเทศไทย ซึ่งล่าสุดนั้น หมอวรงค์ ก็ชี้เป้าพิกัดที่อยู่ของกลุ่มคนเหล่านี้ ที่ปลุกปั่น ล่อลวงเยาวชนผ่านโลกออนไลน์ จนเกิดชื่อข้อมูลที่บิดเบือน ว่าฝังตัวอยู่ประเทศใดบ้างในโลก โดยคุณหมอ ได้ชี้แจงผ่านทาง Warong Dechgitvigrom มีเนื้อหาว่า
“#สิ่งที่คนไทยต้องรู้การเคลื่อนไหวของม็อบ ที่นำไปสู่ความล้มเหลว มีหลายสาเหตุ ตั้งแต่เป้าหมายที่สังคมไทยรับไม่ได้ นั่นคือต้องการล้มล้างสถาบันเบื้องสูง เพื่อสถาปนาระบอบสาธารณรัฐ โดยกดดันผ่านการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
มีพฤติกรรมข่มขู่ หยาบคาย รวมทั้งมีการผลักดันใช้ชื่อน้องๆนักศึกษา ในชื่อต่างๆมาบังหน้า แต่เบื้องหลังม็อบกลับมีกลุ่มอาจารย์ นักการเมือง พรรคการเมือง รวมทั้งสามอำมหิตที่เกาะชายกระโปรงนักศึกษาร่วมด้วย
สิ่งที่เลวร้ายที่สุด ยังตรวจพบว่า มีคนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ต่างประเทศ จัดตั้งเป็นขบวนการเพื่อล้มล้างประเทศไทย ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่าทวิตเตอร์และอินสตราแกรม ปั่นกระแสชี้นำความคิดเยาวชนไทย โดยคนกลุ่มนี้กระจายอยู่ที่ฮ่องกง ญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันและสิงคโปร์
ล่าสุดในช่วงที่ม็อบระดมใหญ่ เพื่อ #ให้มันจบที่รุ่นเรา คนกลุ่มดังกล่าว ได้ย้ายฐานการโจมตี จากประเทศต่างๆ มาตั้งฐานถล่ม เพื่อชี้นำความคิดแก่เยาวน ที่สิงคโปร์และตุรกี นี่คือ #สิ่งที่คนไทยต้องรู้ และตามให้ทัน”
- อดีตรองนายกฯ เปิดคำสาป ผืนดิน มธ.ท่าพระจันทร์
- ทีม โฆษก ทบ. ชุดใหม่ สวยเก่ง-ฉะฉาน
- ‘หมอวรงค์’ซัดกลับ ‘ปิยบุตร’หลังโพสต์คำ ‘รอแบ็สปีแยร์’
ด้านความเห็นของกลุ่มคนที่ติดตามคุณหมอวรงค์ ก็ออกมาเปิดมุมมองอย่างน่าสนใจเช่นกัน ตัวอยาก
” ขอบคุณ คุณหมอวรงค์และกลุ่มไทยภักดี รวมใจทำเพื่อชาติบ้านเมือง เท่าทันพวกไม่หวังดีและคนไทยต้องตื่นรู้ และตามให้ทัน”
“ต้องยึดหลัก 3 เสาหลักไทย..??? เป็นนักการเมืองต้องยึดมั่นในการเคารพ 3 เสาหลักไทย ถ้าทำไม่ได้ก็หมดคุณสมบัติในการเล่นการเมืองที่สดใส แต่.ทุกวันนี้.มีผู้เล่น.ชอบเบี่ยงเบนประเด็น 3 เสาไทย จึงมีเหตุอาเพชมากมาย.ทำอะไรยากจะสำเร็จบนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ นี้”
“ในเมื่อมันกล้าทุกอย่าง ต่อไป มันจะกล้าทำอะไรเพื่อที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงตามที่พวกมันต้องการ ถ้ามองตอนนี้พวกมันไม่มีทางชนะแน่มีแต่รอวันแพ้ นอกจากจะหาทาง ใช้กำลังทหารจากภายนอกมารุกราน ซึ่งก็ดูเป็นไปไม่ได้ ก็เห็นเพียงแต่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ดิสเครดิตประเทศตัวเอง ทำลายเศรษฐกิจ ทำลายความน่าเชื่อถือ ทำลายความดีงาม สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธ ถ้าเรายิ่งปล่อยไปเรื่อยๆ แบบนี้ มีแต่ยิ่งบั่นทอนความรักสามัคคีคนในชาติไปเรื่อยๆ ไม่ต่างจากถูกเชื้อโรคลุกลาม”
ขอบคุณข้อมูลจาก : FB Warong Dechgitvigrom
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation