ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ระบุว่า
วันนี้มีคำถาม ท่านนายกรัฐมนตรี !
มีอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนถูกคำสั่ง คสช.ปลด แต่ปัจจุบันกลับได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งที่สำคัญเท่าที่เป็นข่าว ต่างเชื่อกันว่าพวกเขาทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทและทำผลประโยชน์ให้นายทุนใหญ่ จึงไดรับการ ปูนบำเหน็จความชอบให้ ถ้าเป็นตามข่าวจริง ที่คนส่วนใหญ่เขาเชื่อกับว่านายทุนใหญ่ผู้นี้เป็นผู้มีอิทธิพล ลครอบงำรัฐบาล ผมขอยกตัวอย่าง 2 คนคือ
1 นาย ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานกระทรวงอุตสาหกรรม ถูกคำสั่ง คสช.ปลดเมื่อ 24 กรกฎาคม 2557 ต่อมา 6 ธันวาคม 2563 ค.ร.ม.ท่านประยุทธ์ แต่งตั้งเป็น อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ผลงานที่ได้สร้างวีรกรรม ติดโควิด-19 ไม่แจ้งให้หน่วยงานทราบและยังมานั่งทำงาน ถูกร้องเรียนในหลายโครงการมูลค่ากว่า 1000 ล้านบาท จนในที่สุด ปลัดกระทรวง นำเรื่องเสนอ ค.ร.ม.เพื่อย้ายออกจากตำแหน่ง แต่ด้วยความเป็นเพื่อนสนิท นายทุนใหญ่จึงไม่มีใครกล้าแตะต้องแต่ในที่สุดก็ถูกย้ายมานั่ง รองปลัด อย่าเข้าใจผิดว่าถูกลงโทษนะครับ เขาย้ายเพื่อเตรียมตัวรับตำแหน่ง ปลัดกระทรวง และที่น่าตกใจได้รับการแต่งตั้งให้เป็น คณะกรรมการ บมจโทรคมนาคมแห่งชาติ และเป็นประธาน สรรหา กรรมการผู้จัดการ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ
2.นาย กวิน ทังสุพิช เลขาธิการ คณะคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ถูกคำสั่ง คสช.ปลดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 จากการถูกตรวจสอบประมูลโรงไฟฟ้า 5,000 เมกาวัตต์ พบข้อสงสัย ที่เป็นมูลความผิด 3 ประการ
1.ไม่ได้เลือกผู้ชนะการประมูลจากผู้เสนอราคาต่ำสุด
2 ตั้งปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าในปริมาณที่สูงโดยไม่มีเหตุอันสมควร
3.มีปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้รัฐต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบส่งกระแสไฟเป็นจำนวนเงิน เกือบ 6,000 ล้านบาท
เรื่องทั้งหมดยังไม่มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่คนที่ได้ประโยชน์คือ นายทุนพลังงาน
ผลงานที่เป็นที่ต้องตาต้องใจนายทุนคนสำคัญ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ข้าราชการการเมืองตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่มีบทบาทสำคัญให้กระทรวงพลังงาน ผลักดันการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติให้เอกชนนำเข้าและเอกชนที่ได้รับอนุญาตคือ บริษัท กัลป์ แอลเอ็นจี งวดแรก 0.30 ล้านตันต่อปี เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้า โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก จำนวน 19 โครงการ ต่อมาได้รับอนุญาตเพิ่มอีก 0.53 ล้านตันต่อปี จำหน่ายให้แก่กลุ่มของ บริษัท ปตท ล่าสุดได้รับอนุญาตเพิ่มอีก 5.54 ล้านตันติอปี เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดใใหญ่ ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัท มีสิทธิจัดหาและนำเข้าปริมาณรวม 6.37 ล้านตันต่อปี ผลประโยชน์มหาศาล จึงทำให้ต้องได้รับการส่งเสริมให้มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตขึ้น จึงไดยื่นใบลาออกจากเลขานุการรัฐมนตรี เพื่อรอรับตำแหน่ง เลขาธิการคณกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก แทน ดร. คณิต แสงสุพรรณ ที่ครบวาระ
ทั้ง 2 ตำแหน่งยังไม่คำสั่งแต่งตั้งจาก ครม.ท่านประยุทธ แต่มีกระแสข่าวที่ใกล้ชิดแจ้งว่าเป็นความต้องการของ นายทุนพลังงานคนสำคัญ ผมในฐานะประชาชนที่ไม่อยากเห็นสมบัติของชาติต้องตกอยู่ในมือนายทุน จึงขอถามท่านนายกรัฐมนตรี ว่าเรื่องแบบนี้ท่านจะให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ และคดีเก่าที่ 2 ข้าราชการทำไว้ผลการดำเนินคดีไปถึงไหนแล้วครับ
ดร.ณฐพร โตประยูร
อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
3 เมษายน 2565