ความคืบหน้ากรณีข่าว พระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมตัวและถูกจับสึกเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ภายหลังจากมีการแสดงความคิดเห็นกรณีปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการสร้างความแตกแยก และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า อดีตพระมหาอภิชาต ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใดนั้น
แนวหน้า – ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 กันยายน สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศฉบับที่ 1 ลงวันที่ 22 กันยายน เรื่องผลการเจรจากับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกรณีอดีตพระมหาอภิชาต โดยมีรายละเอียดดังนี้
“ในวันนี้ สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย นำโดย ร.ท.ผศ.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปที่วัดเบญจบพิธฯ เพื่อไปเจรจา 3 ฝ่าย ประกอบด้วย
1.เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิธ
2.เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกรณีอดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท
3.ตัวแทนสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
ขอสรุปผลการเจรจา
เจ้าหน้าที่ ถามเจ้าอาวาสว่า ท่านอภิชาต ขอสึกเองหรือไม่ ท่านเจ้าอาวาส ตอบว่า ใช้ ท่านอภิชาต ขอสึกเอง
เจ้าหน้าที่ ก็ขอให้เราแจ้งต่อสาธารณชน ว่า มหาอภิชาต ขอสึกเอง
เราตอบว่า เราไม่สามารถรับรองได้ ว่า ขอสึกเอง ด้วยความเต็มใจ จนกว่าจะได้พบกับ ท่านอภิชาต ด้วยตนเองเสียก่อน
เราก็ขออนุญาต เข้าไปเยี่ยมท่าน เพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆ
เจ้าหน้าที่ยืนยัน สรุป ดังนี้
1.ยังไม่บอกว่า ตอนนี้อยู่พิกัดไหน
2.ให้รออีก 2 วัน แล้วทุกคนจะทราบเอง (เราจะรอถึงวันจันทร์)
3.ท่านอภิชาต ไม่ได้ถูกคุมขังแต่ประการใด และอยู่ในที่ปลอดภัย
4.ไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ
ข้อสรุปสำหรับเรา (ปรึกษากันเอง)
1.เราจะรออีก 2 วัน นั่นคือ ยอมรอถึงวันจันทร์ ไม่เกิน 18.00 น.
2.หากวันจันทร์ ยังไม่ทราบข่าวตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง เราจะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อเจรจาทั้งการปล่อยตัว และความปลอดภัยของท่านอภิชาต
3.ตั้งกองทุน ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ประเด็นคือ
3.1 ช่วยเหลืออดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท ในเรื่องดังนี้
3.1.1 ช่วยเหลือทางด้านคดี (หากต้องใช้)
3.1.2 ช่วยเหลือเป็นค่ายังชีพ ขณะที่ลาสิกขาใหม่ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว
3.1.3 อื่นๆ ที่สมควร
3.2 กิจกรรมเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา (อันนี้ใช้ระยะยาว ทั้งช่วยเหลือชาวพุทธวันหน้า หรือการทำงานเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา)”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ยังได้ออกประกาศฉบับที่ 2 แจ้งเรื่องการเปิดบัญชีระดมทุนเพื่อช่วยเหลืออดีตพระมหาอภิชาตอีกด้วย
สำนักข่าววิหคนิวส์