28 พ.ย.63 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินทางไปช่วยหาเสียงให้นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ หัวหน้ากลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
นายจตุพร กล่าวว่านายบุญเลิศ เป็นอดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ และถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. มาตรา 44 ปลดออกจากตำแหน่ง แล้วยังถูกติดคุกกรณีรณรงค์ประชามติ รธน. 2560 ผมจึงซาบซึ้งจิตใจนักสู้ประชาธิปไตย จึงต้องมาช่วยงานการเมืองกัน” นายจตุพร กล่าวถึงเหตุผลการช่วยปราศรัยหาเสียงให้กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมทั้ง 42 เขตทั่วจังหวัดเชียงใหม่
นายจตุพร ย้ำว่า นายบุญเลิศ เป็นนายก อบจ.คนเดียวของไทยที่ถูกสั่งให้ติดคุกโดยกล่าวหาความผิดเกี่ยวกับการรณรงค์ประชามติ รธน. 2560 กฎหมายอาญา ม.116 เป็นอั้งยี่ซ่องโจร ทั้งหมดเกิดจากการประกาศไม่รับร่าง รธน. แล้วถูกจับไปคุมขังในค่ายทหาร มทบ.11 อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้น ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่อีนังขังขอบกับร่าง รธน. 2560 ก็คงไม่ต้องมารับชะตากรรม
ช่วงที่ถูกคุมขังในคุกทหาร ร.11 ตนและพรรคพวกหิ้วอาหารไปเยี่ยมทุกวัน เพราะแพ้หัวใจของนายบุญเลิศ ซึ่งทำหน้าที่พี่น้องอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพวกตนเลย อีกทั้งยังมาถูกขังในเรือนจำเชียงใหม่รวม 1 เดือน
“วันแรกถูกคุมขัง พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้ คำสั่ง ม.44 ให้นายบุญเลิศพักปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งนายก อบจ. จนพักยาวนานเกือบครบ 2 ปี จนได้ให้ตำแหน่งคือเมื่อ 4 มิ.ย. 2561 จากนั้นการติดคุกเรื่องประชามติกลายเป็นผลร้ายของเขา พรรคการเมืองที่เขาสังกัดในช่วงนั้นได้ทิ้งเขา ผมจึงตัดสินใจมาช่วยงานการเมืองตั้งแต่ 26 ก.ค. 2559 ที่นายบุญเลิศถูกขังคุกแล้ว”
อีกทั้ง กล่าวว่า เมื่อเลือกเส้นทางนักต่อสู้ ก็ควรกล้าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง ตนไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่ทิ้งนายบุญเลิศ แต่ควรขอบคุณด้วยซ้ำไปที่มาต่อสู้ในเรื่องทำประชามติ รธน. อีกอย่างเมื่อถูกจับ ไม่เคยซัดทอดใคร
นายจตุพร กล่าวว่า ตนยึดมิตรเป็นมิตร และมิตรที่ติดคุกจากการต่อสู้การทำประชามติ รธน. 2560 แล้ววันนี้ปัญหา รธน. ยังกลับมาที่จุดเดิมเกี่ยวกับการเรียกร้องให้แก้ รธน. 2560 ซึ่งเป็นประเด็นการสู้มาของนายบุญเลิศตั้งแต่ปี 2559 แล้วปี 2563 ก็ยังเหมือนเดิม
“วันนี้เรามีปัญหา รธน. 2560 ปัญหาการแต่งตั้ง ส.ว. 250 คนมาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนตั้งพวกตัวเองให้มาเลือกเอง ซึ่งนายบุญเลิศเห็นปัญหา และสู้มาตั้งแต่ 2559 แล้วถ้าไม่เลือกคนที่สู้พร้อมต่อต้าน รธน. 2560 ซึ่งเป็นนายก อบจ.คนเดียวในประเทศไทย แล้วจะเลือกใคร แถมยังตามกล่าวหาว่า ทรยศ ถ้าสงสัยคน ต้องสงสัยคนไม่ถูกให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ แล้วทำไมมาสงสัยคนที่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ. ถูกติดคุก ซึ่งเป็นตรรกวิบัติที่สุด”
นายจตุพร กล่าวโต้กรณีไม่ถูกอายัดธุรกรรมการเงินว่า ในช่วงนี้นคนที่ถูกอายัดบัญชีมี 2 คนเท่านั้น คือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง กับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ที่เหลือถูกปรับทัศนคติ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความพยายามหาเหตุมาเล่นงานนายบุญเลิศเท่านั้น
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อตนมาเชียงใหม่ยังถูกกล่าวหา โจมตีว่าตนเปลี่ยนไป โดยนำรูปใส่เสื้อเหลืองมาบิดเบือนว่า ไปจับมือกับพุทธอิสระ ถามว่า ใครบ้างไม่ใส่เสื้อเหลืองหรือเป็นจิตอาสา อีกอย่างตนเคยถูกคดี ม.112 แต่ถูกยกฟ้อง ส่วนคดีชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ยังมีชื่อเป็นจำเลยอยู่ในสำนวน 2 ซึ่งมีจำเลยร่วม 7 คนเสียชีวิตไป 1 คน อย่างไรก็ตาม สอิ่งสำคัญ ตนไม่ได้เรียกร้องให้แยกสำนวนและต้องการให้มาเป็นจำเลยในสำนวน 2 เช่นกัน ดังนั้น วิธีการเหล่านี้พยายามบิดเบือนและโจมตีต้องการตัดกำลังทางการเมืองกัน
รวมทั้งกล่าวเน้นว่า ในจังหวัดอื่นๆ ตนคงไปหาเสียงช่วยพรรคเพื่อไทย ส่วนที่เชียงใหม่ถึงตนจะถูกฆ่าให้ตายก็ไม่ไปช่วยพรรคเพื่อไทย แม้ไม่เกลียดเพื่อไทย แต่ไม่ชอบพรรคเพื่อไทยทอดทิ้งคนติดคุกในเรื่องประชามติ ยึดมั่นและทำตามนโยบายพรรคมาเสมอ ซึ่งนายบุญเลิศควรได้รับรางวัล ไม่ใช่การถูกทิ้ง เพราะการติดคุกไม่ใช่เรื่องทุจริต แต่เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
“ขอให้พี่น้องเลือกนายบุญเลิศ คนติดคุกด้วยเหตุทำประชามติ รธน. ขอให้โอกาสได้เข้าไปทำหน้าที่ นายก อบจ. เพราะเขาเป็นคนมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย เขาเป็นคนถูกกล่าวหาทั้งๆที่ซื่อสัตย์ เป็นคนรู้กตัญญูต่อคน ไม่ได้เป็นคนทรยศ แต่เขากลับถูกพรรคทอดทิ้ง ทั้งที่พรรคควรต้องสนับสนุนเขา ดังนั้น ผมจะช่วยหาเสียงช่วยทั้งเชียงใหม่ เพื่อช่วยคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผมขอให้ช่วยให้ได้เสียงเท่าเดิม 4 แสนเศษเท่านั้น