เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 เมษายน 2564 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 มีคำสั่งไม่ฟ้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในคดีถือครองหุ้นสื่อ ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบเรื่องนี้ว่าอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในคดีถือครองหุ้นสื่อ เพราะคดีนี้อัยการนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 22 เม.ย.64 เวลา 10.00 น. โดยเลื่อนมาจากวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา คงต้องรอรับแจ้งจากอัยการว่าในวันที่ 22 เม.ย.นี้ จะสามารถมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องได้หรือไม่ ถ้าอัยการแจ้งว่าจะมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใด ก็จะประสานนายธนาธร ร่วมเดินทางไปรับฟังคำสั่ง แต่ถ้าอัยการแจ้งว่าจะขอเลื่อนนัดสั่งคดี ก็คงไม่ต้องประสานนายธนาธร ให้เดินทางไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่มาที่ไปของการถูกดำเนินคดีอาญาเกี่ยวพันมาจาก กรณีเมื่อปี 2562 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยว่านายธนาธร ยังคงมีลักษณะถือครองหุ้นสื่อของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ดำเนินคดีอาญา
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายธนาธร กรณีถือหุ้นสื่อสมัคร ส.ส.ทำให้ขาดคุณสมบัติ ในข้อหา รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเพื่อสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ.2561 มาตรา 151 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ซึ่งนายธนาธร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ.