ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ รับคำร้อง ส.ส.51 คน เข้าชื่อให้ สมาชิกภาพ ส.ส.และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สิ้นสุดลงหรือไม่ แต่ยังไม่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ระบุยังไม่มีเหตุอันควรสงสัย ให้ผู้ถูกกล่าวหาแก้ข้อความหาภายใน 15 วัน
จากกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่งและมาตรา 170 วรรคสามประกอบมาตรา 42 ว่าสมาชิกภาพของร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่าผู้ถูกร้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา(1) ประกอบมาตรา 44(10) และความเป็นรัฐมนตรีของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้ถูกร้องรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 260 (5) และมาตรา 44 (10) หรือไม่ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 53 คนซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรผู้ร้องขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (5) ประกอบมาตรา 44 (10 ) และความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4 ) ประกอบมาตรา 160 (6 ) และมาตรา 44 (10 ) และผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 42 วรรคหนึ่งและมาตรา 170 วรรคสามประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่งและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 7 (5 ) และ (4) จึงสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยและแจ้งให้ผู้ร้องทราบพร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับ แต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 สำหรับการพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีหรือไม่นั้นเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องยังไม่มีเหตุอันควรสงสัยที่จะมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งว่าผู้ถูกร้องไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง