20 พ.ค. 62 นาย นคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุเนื้อหาว่า แนวรบนอกสภาที่สามารถทลายป้อมปราการของระบอบเผด็จการได้
แนวรบสองระบอบเผด็จการ กับประชาธิปไตย ในสภากำลังโรมรันพันตูผลัดกันรุกผลัดกันรับเพื่อแย่งชิงอำนาจรัฐล่วงเลยมา 2 เดือนนับแต่เลือกตั้งจากกฎเผด็จการที่ไม่เหมือนชาวโลก พรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายเผด็จการ ไม่สนใจ มรรยาท ไม่มีความละอาย ขาดอารยธรรมกระหยิ่มยิ้มย่องว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดีไซน์มาเพื่อพวกเขา มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ มีบรรดาเหล่าทัพ ทหารตำรวจรวมเกือบ 500,000 นาย มีข้าราชการประมาณ 2.5 ล้านคน มีองค์กรอิสระเกือบทุกองค์กร มีกระบวนการยุติธรรม สนองตอบและบังคับใช้กฎ
กติกาเผด็จการให้เป็นกฎหมาย มีรัฐวิสาหกิจอีก 56 แห่งเป็นแหล่งทำมาหากินและที่สำคัญที่สุด มีกลุ่มนายทุนผูกขาดขนาดใหญ่ สนับสนุนเงินทุน และมี สว. อีก 250 คน ที่ระบอบเผด็จการแต่งตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจ อยู่ในมือ พวกเขาจึงมั่นใจว่า ต่อให้ สส. พรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการจะมีน้อยกว่า สส ของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย พวกเขาเหล่าเผด็จการก็สามารถสืบทอดอำนาจต่อไปได้ เพราะทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดครบถ้วนสมบูรณ์ ตามแผนการที่วางไว้โดยไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกของประชาชน
ส่วนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งเพื่อไทย และ อนาคตใหม่ เห็นพ้องต้องกัน ที่จะเสียสละทุกอย่างเพื่อสกัดกั้น การสืบทอดอำนาจ เชิญชวนพรรคการเมืองที่มีอำนาจการต่อรองสูงที่สุดในเวลานี้ คือ ประชาธิปัตย์(ซึ่งมีความหมาย อำนาจเป็นของประชาชน) และ ภูมิใจไทย(ซึ่งมีความหมาย เป็นที่รักและภูมิใจของคนไทย)ให้กลับมาอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยตามชื่อพรรค และกอบกู้ฟื้นฟูประชาธิปไตยด้วยกันเพื่อไม่ให้ฝ่ายเผด็จการทหารสืบทอดอำนาจต่อไปได้ เพราะมองเห็นความหายนะ ความล่มสลาย ของประเทศหากฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจได้สำเร็จ ประชาชนจะอดอยาก ลำบาก ยากจน เป็นทาส ไพร่ชั่วลูกชั่วหลาน ประเทศไทยจะล้าหลังทุกอย่าง พยายามสู้ทุกวิถีทางเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย จนนาทีสุดท้าย
แต่ความหวังก็ริบหรี่ลงเรื่อยๆ แนวรบในสภา ที่ฝ่ายเราคาดหมายว่าจะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ด้วย เงินซื้อเสียง เงินบัตรคนจน การโกงการเลือกตั้ง และการใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มรูปแบบ ก็ทำให้คนไทยส่วนหนึ่ง สยบยอมก้มหน้ารับใช้เผด็จการและพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการไป แนวรบฝ่ายประชาธิปไตยในสภา เราจึงมีโอกาสพ่ายแพ้สูง หนำซ้ำ แกนนำพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเพื่อไทย อนาคตใหม่ ก็กำลังถูกไล่ล่า ด้วยอำนาจรัฐ ภายใต้คำว่า กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่เคยมีความยุติธรรมให้ฝ่ายประชาธิปไตย
จึงเหลือแนวรบนอกสภาที่ยังพอมีความหวังอยู่ และจะสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ให้ฝ่ายประชาธิปไตยกลับมาชนะได้ หากฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน แม้กระทั่ง ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ที่กำลังประสบปัญหา วิกฤติเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง หนี้สิน ตกงาน ถูกปล้นฆ่า ถูกยึดทรัพย์สิน สามัคคีกัน รวมพลังกันเรียกร้อง กดดัน ให้รัฐบาลเผด็จการที่ไม่มีความชอบธรรมออกไป ตามกฎหมายยกตัวอย่างเช่น
1. รัฐบาลเผด็จการชุดนี้ มีการใช้อำนาจเรียกได้ว่าเข้าขั้นบ้าอำนาจ ไม่มีการตรวจสอบ จึงเกิดการทุจริต คอรัปชั่นอย่างหนักหน่วง รุนแรงเป็นประวัติการของไทย
ผู้นำคณะรัฐประหารใช้อำนาจตามอำเภอใจปิดเหมืองทอง อาจต้องใช้เงินภาษีประชาชนไปชดใช้แทน 30,000 ล้าน ค่าทนายอีก 600 ล้าน การทุจริต หักหัวคิว การให้สิทธิสัมปทานต่างๆอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งจะนำรายละเอียดและกำหนดมาตรการดำเนินคดีกับเผด็จการชุดนี้ต่อไปให้ทราบภายหลัง แต่เบื้องต้นหากท่านใดมีข้อมูล มีพยานหลักฐานที่พอที่จะดำเนินการได้ ให้สำเนาและบอกข้อเท็จจริงเบื้องต้นให้ผมและคณะทราบ จะไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนใดๆ เรามีคณะทำงานสามารถดำเนินการได้ และถือเป็นความลับสุดยอด จะร้องทุกข์กล่าวโทษกับรัฐบาลเผด็จการชุดนี้ทุกกระทรวงทบวงกรม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157
2. กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ ในเครือข่ายเผด็จการ ที่ผูกขาด ตัดตอน สมคบคิด วางแผนการยึดอำนาจ ได้สิทธิสัมปทานจากรัฐเผด็จการชุดนี้ ไม่น้อยกว่า 20 กลุ่มบริษัท ที่เป็นนายทุน ออกเงินให้ระบอบเผด็จการ ร่วมสร้างสถานการณ์เพื่อยึดอำนาจ รวมทั่งฟอกเงินให้พวกเผด็จการที่ร่ำรวยเงินทองโดยไม่มีที่มาของรายได้ ให้ช่วยกันว่าจะมีมาตรการตามกฎหมาย ทางสังคม ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนผูกขาดเหล่านี้อย่างไรด้วยมาตาการทางสังคมและกฎหมาย
3. เราเชื่อว่าทหารตำรวจและข้าราชการส่วนเป็นคนดี มีใจเป็นธรรม แต่เครือข่ายเผด็จการ ที่แฝงตัวอยู่ในเหล่าทัพ ในระบบข้าราชการระดับสูง ในองค์กรอิสระ ในกระบวนการยุติธรรม ในรัฐวิสาหกิจระดับสูงหลายๆคน พวกนี้ ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุนให้ระบอบเผด็จการดำรงอยู่ กอบโกยผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เอาเปรียบทุกอย่าง สร้างความลำบากยากจนให้กับคนไทย ขอให้ฝ่ายประชาธิปไตยทุกคน ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยกันและกัน รวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่ อันสามารถเอาผิดได้ ช่วยกันร้องทุกข์ กล่าวโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157. ทุกที่ ทุกเเห่ง เพราะเมื่อ เผด็จการ คสช หมดอำนาจ ในอีกไม่นาน พวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา ที่รับใช้เผด็จการด้วย
ผมและเพื่อนร่วมอุดมการณ์หลายท่าน ทั้งในและอยู่ต่างประเทศ มีความเห็นพ้องต้องกัน ที่จะร่วมกันกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม ไม่มีสีเสื้อ ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย มารวมพลังกันเป็นหนึ่ง เดินไปด้วยกัน ปรึกษาหารือกัน ช่วยกันและกันขจัดสิ่งเลวร้ายของเผด็จการ นำพาประเทศของเรา ให้กลับมาสู่ประชาธิปไตยที่มีความเสมอภาค ความถูกต้องและความเป็นธรรมเพื่อลูกหลานของเราต่อไป
แนวรบนอกสภา จะเป็นความหวัง และส่งเสริมให้แนวรบในสภาของฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข็ง และชนะไปด้วยกัน
นคร มาฉิม
อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก
อดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฏร
20 พฤษภาคม 2562
Cr.naewna
สำนักข่าววิหคนิวส์