นอร์เวย์นำหน้าโลกไป 10 ปี ประกาศช่วยลดโลกร้อน เลิกใช้อุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิง-น้ำมันปาล์มอย่างเด็ดขาด ดีเดย์ 1 มกราคมปีหน้า นักอนุรักษ์ชี้คือชัยชนะเพื่อธรรมชาติ
รัฐสภานอร์เวย์ ลงมติเสียงข้างมาก โดยเห็นชอบให้มีการประกาศห้ามให้มีอุตสาหกรรมใดๆ ในประเทศ ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เพราะเล็งเห็นว่าน้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันปาล์ม มีส่วนในการทำลายป่า และมีผลเสียต่อสภาพแวดล้อมในประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลนอร์เวย์ สะท้อนถึงเหตุผลของประกาศการเลิกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยของคนพื้นถิ่นในประเทศ รวมถึงสัตว์ป่า และยังส่งผลกระทบต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวจะทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันนำมาซึ่งภาวะโลกร้อน
นาย นิล เฮอร์แมน รานาม นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนอร์เวย์ ระบุว่า นี่คือชัยชนะของประเทศในการต่อสู้เพื่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศ และการตัดสินใจของนอร์เวย์ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศอื่นๆ ได้เดินหน้าตาม
นอกจากนี้ เมื่อปี 2560 นอร์เวย์ถูกระบุว่ามีสถิตการใช้น้ำมันปาล์มสูงสุดในประเทศเป็นประวัติการณ์ เพราะก่อนหน้านี้นอร์เวย์ได้ประกาศเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล จึงทำให้เกิดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงน้ำมันปาล์มมากขึ้น กระทั่งล่าสุดมีมติจากรัฐสภาให้เลิกใช้อย่างเด็ดขาดในปีหน้า
พร้อมกันนี้ นอร์เวย์ ยังตั้งเป้าอีกว่าในปี 2568 ทั้งประเทศจะไม่มีรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงขายในท้องตลาดอีกต่อไป และจะมีเพียงรถยนต์ไฟฟ้าที่จะให้คนในประเทศได้ใช้งาน
ทั้งนี้ นอร์เวย์ นับเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศอย่างชัดเจนผ่านรูปแบบของกฎหมายที่จะเลิกใช้น้ำมันปาล์มอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ในส่วนสหภาพยุโรป ได้ลงมติเพื่อห้ามการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน แต่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2573 ซึ่งเท่ากับว่า นอร์เวย์เริ่มต้นเลิกใช้น้ำมันปาล์มก่อนประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเร็วกว่าอย่างน้อยถึง 10 ปี
สำนักข่าววิหคนิวส์